เอาควันหลง รีวิวรถMini truck จากมอเตอร์โชว์ครั้งที่แล้วมาฝากกัน
5 มี.ค. 66 11:35 น. /
ดู 2,897 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เอาควันหลง รีวิวรถMini truck จากมอเตอร์โชว์ครั้งที่แล้วมาฝากกัน
ควันหลงไปดูงานมอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ ต้องบอกเลยว่าคนเยอะมาก และคิดว่าตัวเองไปงานเร็วพอสมควรแล้ว (บ่าย 1) งานเปิดเที่ยงตรง และ เป็นวันธรรมดาแต่กว่าจะจอดรถได้ก็ไปชั้นสูงๆ แล้ว บ่นพอเป็นพิธีเสร็จแล้วก็มาลุยกันต่อ งานรอบนี้ก็เหมือนทุกปีที่มีรถหลากหลายเข้ามาให้ดู แต่ที่ผมสนใจจะไปดูและหลายคนคงคิดเหมือนกันคือ ไปดูรถ EV ที่หลายๆ ค่ายขนมาโชว์ แม้ว่าในวันนั้นช่วงเช้าจะตื่นเต้นกับการเปิดตัวของ Tesla ที่เปิดตัวที่ราคาออกมาต่ำกว่านำเข้าเกินครึ่ง และอีกสิ่งนึงที่ผมสนใจและคาดหวังว่าในงานนี้จะมีก็คือรถ Mini Truck ที่พ่อค้าแม่ค้าเริ่มนิยมกันสำหรับเอาไปเปิดร้านค้าขายอาหารเครื่องดื่ม
รอบนี้ผมก็เดินชมรถต่างๆ หลายค่ายแล้วก็มาดูรถที่เราสนใจจริงๆ นั่นก็คือรถ Mini Truck ว่ามีค่ายไหนเอามาให้ชมบ้าง วันนั้นที่เจอหลักๆ มีแค่ 2 ค่าย คือ Mine by E@ anywhere (เห็นในงานเค้าเขียนงี้) กับ อีกค่ายคือ Suzuki มีแค่ 2 ค่าย ในใจก็คิดว่าไม่มีเจ้าอื่นเข้ามาเล่นตลาดนี้กันเลยหรอ มีแค่ 2 ค่ายแค่เนี่ยะ โอเคร ก็เลยถ่ายรูปมาพอสมควรเพื่อการพิจารณาในการเลือกซื้อ
ขอรีวิวเจ้าแรกก่อน Mine by E@ anywhere หรือ จากบริษัท EA พลังงานบริสุทธิ์ ที่เป็นบริษัททำพลังงานทางเลือก (กลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม)
สเปกของรถ Mine โดยสังเขป
เป็นรถไฟฟ้า 100%
ระยะทางวิ่งได้ 210 กม. ต่อการชาร์จเต็ม ชาร์จเต็มใช้เวลา 5 ชม. รองรับชาร์จเร็ว DC Ultra fast charge Max. 70 kW (15 นาที วิ่งได้ 100 กม.)
แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 30 kWh
บรรทุกหนักได้ 1,000 กก. หรือ 1 ตัน
ใต้ท้องรถช่วงแบตเตอรี่สูง 360 มม. (อันนี้ส่วนตัวชอบ มันสูงดีเหมาะกับกันน้ำท่วมบ้านเรา)
ส่วนสมรรถนะระบบขับเคลื่อน
ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์บนเพลา
ระบบเกียร์ Single Speed
กำลังสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร
ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.
โหมดการขับขี่ได้ 2 โหมด Drive คือ Normal และ แบบ Eco
โดยภายนอกตัวรถดูใหญ่โอ่อ่าพอตัวเลยครับ โดยในงานมีรถพร้อมที่ตกแต่งมาเป็นตัวอย่างแค่ 3 แบบ
แต่สามารถตกแต่งได้หลายแบบตามในรูปเพิ่มเติมจากใน Line ที่แอดไป
รีวิวกันต่อในส่วนภายนอกและภายใน
ไฟหน้าดูสวยงามหน้าตาน่ารัก ตัวรถวัสดุแข็งแรงพอสมควร หัวชาร์จแบบ CCS2 ที่สะดวกต่อการชาร์จ สามารถหาชาร์จตามสถานีทั่วไปได้ เพราะหัวชาร์จแบบ AC และ DC ในหัวเดียวกันทำให้ง่ายต่อการเลือกใช้กับที่เสียบชาร์ทตามสถานี
รถยกสูงจากพื้นพอสมควร ลดความเสี่ยงน้ำท่วมที่เกิดบ่อยในบ้านเรา
แผงคอนโทรลตรงกลางถามพนักงานแจ้งว่าเป็นระบบ Android ไม่ได้เปิดทดลองจริงไม่รู้ว่าเป็นใช้อะไรได้บ้าง ส่วนที่เป็นคอนโทรลหน้าก็โชว์เรื่องทั่วไป พวกเกจวัดน้ำมัน, วัดความเร็ว อันนี้ก็ไม่ได้เปิดโชว์เช่นกัน
รูปแบบการสตาร์ทเครื่องเป็นระบบกุญแจ
แอร์เป็นระบบปรับอุณหภูมิ อัตโนมัติ มีช่องเสียบ USB type A มาให้ 2 ช่อง มีลำโพงมาให้ 2 ตัว คิดว่าน่าจะพอเหมาะกับรถบรรทุกแล้ว
ส่วนเกียร์เป็นแบบปุ่มกดสมัยใหม่แบบรถ EV ใช้กัน มีที่วางแก้วน้ำ 2 แก้วตรงกลางและวางของได้เล็กน้อยเหนือเบรกมือ
ส่วนเบาะคิดว่าเบาะนุ่มกว่า Mini Truck ของอีกเจ้า นั่งสบายเหมาะกับการขับขี่ระยะสั้นก็ได้ระยะไกลก็ได้
มาดูส่วนของกระบะหลัง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะพอสมควรเข้าไปยืน หันซ้ายขวาได้คล่องตัว
รีวิวที่ดีต้องมีราคา ตัวรถมีทั้งหมด 2 ราคาด้วยกัน
รุ่นสีมาตรฐานราคา 748,500 บาท
รุ่นสี Pastel edition ราคา 766,500 บาท
ส่วนการบริการหลังการขาย ถามพี่พนักงาน สามารถเข้าศูนย์บริการ Cockpit ได้ทั่วประเทศ อย่างนี้สิแหล่มไม่ใช่ต้องมานั่งกังวลว่าเสียแล้วซ่อมไหน หรือเช็คสภาพที่ไหนได้บ้าง
ปิดท้ายบูทนี้ตอนนั้นไปได้จังหวะ เค้ามีกิจกรรมให้เข้าร่วมพอดี ก็จัดเลย เข้าร่วมกิจกรรมกับเค้าสักหน่อย ได้แก้วน้ำมา 1 ใบ
เรามาดู Mini Truck ของอีกยี่ห้อ Suzaki
โดยรถเจ้านี้เป็นรถใช้น้ำมัน
สเปกรถตัวนี้
จำนวนที่นั่ง 2 คน
ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร
น้ำหนักบรรทุก 945 กิโลกรัม เกือบ 1 ตัน
เครื่องยนต์ 1,462 ซีซี
ขับเคลื่อน 2 ล้อ
ระบบเกียร์ Manual แบบเกียร์กระปุกทั่วไปเลย
ระบบเครื่องเสียง เครื่องเล่นวิทยุ และ MP3 ลำโพง 2 ตำแหน่ง มีระบบแอร์มาให้ 4 จุด แผงคอนโทรลก็เหมือนรถปกติไว้แจ้งเตือนทั่วไป
นั่งได้ 2 ที่นั่ง เบาะบางและแข็งไปหน่อย
รีวิวที่ดีต้องมีราคาอีกเช่นเคย โดยรวมจะมีราคาอยู่ที่ 670,000 บาท
เปรียบเทียบความคุ้มค่า
จากตารางก็พอจะเห็นภาพ
เท่าที่ดูมาวันนี้ที่น่าสนใจก็คือรถ EV ของ Mine by E@ anywhere ที่ตอนนี้ค่ายรถต่างๆ ที่เล่นตลาด Mini Truck มีไม่กี่รายในตอนนี้ และ มี Mine เป็นค่ายเดียวที่เป็นรถ EV สำหรับ Mini Truck หากใครต้องการประหยัดเติมเชื้อเพลิงครั้งนึงสบายกระเป๋า หรือรักโลก อยากเพื่อที่จะลดมลพิษทางอากาศลง Mine By E@ anywhere ก็เป็นรถที่น่าสนใจ
#minitruck
#มอเตอร์โชว์
#evminitruck
รอบนี้ผมก็เดินชมรถต่างๆ หลายค่ายแล้วก็มาดูรถที่เราสนใจจริงๆ นั่นก็คือรถ Mini Truck ว่ามีค่ายไหนเอามาให้ชมบ้าง วันนั้นที่เจอหลักๆ มีแค่ 2 ค่าย คือ Mine by E@ anywhere (เห็นในงานเค้าเขียนงี้) กับ อีกค่ายคือ Suzuki มีแค่ 2 ค่าย ในใจก็คิดว่าไม่มีเจ้าอื่นเข้ามาเล่นตลาดนี้กันเลยหรอ มีแค่ 2 ค่ายแค่เนี่ยะ โอเคร ก็เลยถ่ายรูปมาพอสมควรเพื่อการพิจารณาในการเลือกซื้อ
ขอรีวิวเจ้าแรกก่อน Mine by E@ anywhere หรือ จากบริษัท EA พลังงานบริสุทธิ์ ที่เป็นบริษัททำพลังงานทางเลือก (กลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม)
สเปกของรถ Mine โดยสังเขป
เป็นรถไฟฟ้า 100%
ระยะทางวิ่งได้ 210 กม. ต่อการชาร์จเต็ม ชาร์จเต็มใช้เวลา 5 ชม. รองรับชาร์จเร็ว DC Ultra fast charge Max. 70 kW (15 นาที วิ่งได้ 100 กม.)
แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 30 kWh
บรรทุกหนักได้ 1,000 กก. หรือ 1 ตัน
ใต้ท้องรถช่วงแบตเตอรี่สูง 360 มม. (อันนี้ส่วนตัวชอบ มันสูงดีเหมาะกับกันน้ำท่วมบ้านเรา)
ส่วนสมรรถนะระบบขับเคลื่อน
ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์บนเพลา
ระบบเกียร์ Single Speed
กำลังสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร
ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.
โหมดการขับขี่ได้ 2 โหมด Drive คือ Normal และ แบบ Eco
โดยภายนอกตัวรถดูใหญ่โอ่อ่าพอตัวเลยครับ โดยในงานมีรถพร้อมที่ตกแต่งมาเป็นตัวอย่างแค่ 3 แบบ
แต่สามารถตกแต่งได้หลายแบบตามในรูปเพิ่มเติมจากใน Line ที่แอดไป
รีวิวกันต่อในส่วนภายนอกและภายใน
ไฟหน้าดูสวยงามหน้าตาน่ารัก ตัวรถวัสดุแข็งแรงพอสมควร หัวชาร์จแบบ CCS2 ที่สะดวกต่อการชาร์จ สามารถหาชาร์จตามสถานีทั่วไปได้ เพราะหัวชาร์จแบบ AC และ DC ในหัวเดียวกันทำให้ง่ายต่อการเลือกใช้กับที่เสียบชาร์ทตามสถานี
รถยกสูงจากพื้นพอสมควร ลดความเสี่ยงน้ำท่วมที่เกิดบ่อยในบ้านเรา
แผงคอนโทรลตรงกลางถามพนักงานแจ้งว่าเป็นระบบ Android ไม่ได้เปิดทดลองจริงไม่รู้ว่าเป็นใช้อะไรได้บ้าง ส่วนที่เป็นคอนโทรลหน้าก็โชว์เรื่องทั่วไป พวกเกจวัดน้ำมัน, วัดความเร็ว อันนี้ก็ไม่ได้เปิดโชว์เช่นกัน
รูปแบบการสตาร์ทเครื่องเป็นระบบกุญแจ
แอร์เป็นระบบปรับอุณหภูมิ อัตโนมัติ มีช่องเสียบ USB type A มาให้ 2 ช่อง มีลำโพงมาให้ 2 ตัว คิดว่าน่าจะพอเหมาะกับรถบรรทุกแล้ว
ส่วนเกียร์เป็นแบบปุ่มกดสมัยใหม่แบบรถ EV ใช้กัน มีที่วางแก้วน้ำ 2 แก้วตรงกลางและวางของได้เล็กน้อยเหนือเบรกมือ
ส่วนเบาะคิดว่าเบาะนุ่มกว่า Mini Truck ของอีกเจ้า นั่งสบายเหมาะกับการขับขี่ระยะสั้นก็ได้ระยะไกลก็ได้
มาดูส่วนของกระบะหลัง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะพอสมควรเข้าไปยืน หันซ้ายขวาได้คล่องตัว
รีวิวที่ดีต้องมีราคา ตัวรถมีทั้งหมด 2 ราคาด้วยกัน
รุ่นสีมาตรฐานราคา 748,500 บาท
รุ่นสี Pastel edition ราคา 766,500 บาท
ส่วนการบริการหลังการขาย ถามพี่พนักงาน สามารถเข้าศูนย์บริการ Cockpit ได้ทั่วประเทศ อย่างนี้สิแหล่มไม่ใช่ต้องมานั่งกังวลว่าเสียแล้วซ่อมไหน หรือเช็คสภาพที่ไหนได้บ้าง
ปิดท้ายบูทนี้ตอนนั้นไปได้จังหวะ เค้ามีกิจกรรมให้เข้าร่วมพอดี ก็จัดเลย เข้าร่วมกิจกรรมกับเค้าสักหน่อย ได้แก้วน้ำมา 1 ใบ
เรามาดู Mini Truck ของอีกยี่ห้อ Suzaki
โดยรถเจ้านี้เป็นรถใช้น้ำมัน
สเปกรถตัวนี้
จำนวนที่นั่ง 2 คน
ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร
น้ำหนักบรรทุก 945 กิโลกรัม เกือบ 1 ตัน
เครื่องยนต์ 1,462 ซีซี
ขับเคลื่อน 2 ล้อ
ระบบเกียร์ Manual แบบเกียร์กระปุกทั่วไปเลย
ระบบเครื่องเสียง เครื่องเล่นวิทยุ และ MP3 ลำโพง 2 ตำแหน่ง มีระบบแอร์มาให้ 4 จุด แผงคอนโทรลก็เหมือนรถปกติไว้แจ้งเตือนทั่วไป
นั่งได้ 2 ที่นั่ง เบาะบางและแข็งไปหน่อย
รีวิวที่ดีต้องมีราคาอีกเช่นเคย โดยรวมจะมีราคาอยู่ที่ 670,000 บาท
เปรียบเทียบความคุ้มค่า
จากตารางก็พอจะเห็นภาพ
เท่าที่ดูมาวันนี้ที่น่าสนใจก็คือรถ EV ของ Mine by E@ anywhere ที่ตอนนี้ค่ายรถต่างๆ ที่เล่นตลาด Mini Truck มีไม่กี่รายในตอนนี้ และ มี Mine เป็นค่ายเดียวที่เป็นรถ EV สำหรับ Mini Truck หากใครต้องการประหยัดเติมเชื้อเพลิงครั้งนึงสบายกระเป๋า หรือรักโลก อยากเพื่อที่จะลดมลพิษทางอากาศลง Mine By E@ anywhere ก็เป็นรถที่น่าสนใจ
#minitruck
#มอเตอร์โชว์
#evminitruck
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google