สุดารัตน์ ทำวงแตก แก๊งสี่กุมารเก่าไม่ปลื้มหวนซบลุงป้อม

เมื่อพูดถึงผู้หญิงที่ทรงอธิพลการเมืองที่สุด ก็ต้องพูดถึง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่เป็นอดีตทีมไทยรักไทย และ เป็นอดีตผู้สมัครลงผู้ว่ากรุงเทพมหานครในสมัยเดียวกับ นายสมัคร สุนทรเวช ในปี 2545 เกือบ 3 ทศวรรษที่ สุดารัตน์อยู่ในมิติการเมืองไทย หลายคนคงคิดว่า บารมี ชื่อเสียงจะทำให้เธอก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดของ นายกรัฐมนตรี เช่นนั้นก็ถือว่า ผิดมากๆ

ล่าสุดที่ผ่านมา มีข่าวลือการดีลกัน ระหว่างพรรคไทยสร้างไทย ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับพรรคไทยสร้างไทย โดยใช้ชื่อการดีลในที่นี้ว่า การหาทางออกประเทศร่วมกันระหว่างสองพรรค

แต่ที่แน่นอน จะเรียกว่าช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดก็น่าจะใช่ ล่าสุด นายอุตตม สาวนายน , นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง เพื่อเสริมการทำงานด้านเศรษฐกิจภายใต้บารมีลุงป้อมหลังอยู่พรรคเดียวกับนายสมคิดไม่รอด พร้อมปฏิเสธนักข่าวเรื่องดีลลับ ก็เป็นสัญญาณกลายแล้ว

ว่า อยู่กับสุดารัตน์ อาจเตรียมตัวดับ เพราะหลังจากเหตุการณ์ เลือกตั้ง สก เมื่อปีก่อน พรรคไทยสร้างไทยได้เพียงแค่ 1 ที่นั่ง แถมนายศิธา ทิวารี ก็คะแนนรั้งท้าย รสนา อีก นับว่า บารมีหญิงหน่อย คือสลาย แท้ทำบุญสร้างพระพุทธเจ้าน้อย และหลบตัวไปปฏิบัติธรรมถึงอินเดีย สุดท้ายก็บุญไม่เกื้อหนุน

ไม่เกื้อหนุนทั้ง ความราบรื่นในพรรคเพื่อไทย ที่บริหารจน ส.ส. โวยทำให้เหล่ามุ้งบ้านใหญ่ต่างๆพร้อมใจกันส่ายหน้า

ทั้งไม่เกื้อหนุน ให้บารมีเก่าในการเลือกตั้ง กทม. ได้คะแนนตามเป้า

และไม่เกื้อหนุนให้ดีล(ที่เขาลือหนาหู) ประสบความสำเร็จ