เมล็ดพันธุ์ ต้นกล้าแห่งชีวิต ชาติไทยพัฒนา

26 ม.ค. 66 02:50 น. / ดู 15,762 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
เราอาจได้ยินนโยบายเกี่ยวกับ ราคาข้าวเช่นการจำนำข้าว การประกันราคาข้าว ทั้งหมดล้วนแต่เป็นหลักประกันที่ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจที่จะลงมือเพาะปลูก  หรือสร้างแรงจูงใจให้ชาวนา ไม่ละทิ้งการทำนาไปทำอย่างอื่นที่เป็นการเกษตรตั้งบรรพบุรุษที่สืบต่อกันมา
แต่มีอีกนโยบายหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ก็คือการแจกเมล็ดพันธุ์ข้าว

ประเทศเราขึ้นชื่อเรื่องพันธุ์ข้าวที่ปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์จนทั่วโลกยอมรับ แต่การได้มาซึ่งพันธุ์ข้าวที่ดีๆ มีราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นทางภาครัฐต้องสนับสนุนเรื่องพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกร เพราะการปลูกข้าวย่อมมีทั้งต้นทุนและเวลารวมไปถึงความไม่แน่นอนที่ทางเกษตรกรต้องแบกรับ

เนื่องจากในปัจจุบันมีการคิดค้นพัฒนาพันธุ์ข้าวไทยที่มีความคงทนต่อสภาพอากาศ และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุและการเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุในการใช้ในการปลูกข้าวแค่ปีละหนึ่งครั้ง ส่งผลให้ไม่สามารถเก็บเมล็ดข้าวไว้ได้นานเกิน 1-2 ปี เพราะข้าวอาจเสื่อมคุณภาพ และทำให้ไม่ได้ตามเป้าที่วางเอาไปจนถึงนาล่มได้

ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาได้ดำเนินนโยบาย WOW THAILAND ที่เล็งเห็นว่าการปลูกข้าวสิ่งสำคัญคือเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในเกษตรกรรมและเล็งเห็นความสำคัญตั้งแต่ขั้นต้นของการทำงานโดยการแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกร กว่า 60 ล้านไร่ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเกษตรกรรม และส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารให้แก่การเกษตรทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ

และในขณะเดียวกัน ก็ส่งเสริมการให้เกษตรกรทำการเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน อย่างที่เป็นรูปธรรมของในการผลักดันของ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 4 พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ผลักดันเรื่องการทำการเกษตรแบบเปียกสลับแห้ง ที่ลดปริมาณการใช้น้ำลง และปลอดสารพิษลดการใช้ปุ๋ยเคมี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ อีกทั้งได้เงินจากการขายคาร์บอนเครดิตที่เป็นกำไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากการขายข้าวให้โรงสีข้าวอีกด้วย

นับว่าสร้างให้รากฐานให้ชาวนามีความเข้มแข็ง และห่วงใยชาวนาในทุกๆขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยว ไม่ใช่แค่เพียงแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวเท่านั้น แต่สร้างเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังให้ชาวนาอีกด้วย


การหวังอันดับแชมป์ส่งออกข้าวอาจเป็นอดีตที่ควรภูมิใจแต่อาจไม่ใช่คำตอบ เท่ากับคุณภาพและความต้องการของตลาดโลกต่อข้าวหอมมะลิเมืองไทย แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือชาวนาลืมตาอ้าปากและเป็นกระดูกสันหลังที่แข็งแรงและพยุงปากท้องของคนในชาติต่อไปได้อีกหลายชั่วอายุคน
แก้ไขล่าสุด 26 ม.ค. 66 13:05 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย MacOS

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | sz382025 | 26 ม.ค. 66 13:22 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google