มาเป็นคนใหม่ที่ผมสวย หนาแน่น ดูสุขภาพดีขึ้นด้วยการปลูกผม FUE

19 ม.ค. 66 23:45 น. / ดู 1,086 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์


ปัญหาผมร่วง ผมบางนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับเพศหญิงและเพศชาย โดยเฉพาะเพศชายมักจะเกิดปัญหาผมร่วง หัวล้านได้ง่ายกว่าอันเนื่องมาจากฮอร์โมนเพศชายและยีนที่ทำให้เกิดหัวล้านจะอยู่บนโครโมโซม X ในเพศชายที่มียีน XY เพียงแค่มียีนหัวล้านที่โครโมโซม X เพียงตัวเดียวก็จะแสดงลักษณะของหัวล้านขึ้นมาเลย
ปัญหาผมร่วง ผมบางนั้นมักจะสร้างความไม่มั่นใจในตนเอง ดูแก่ก่อนวัย หรือดูโทรม สุขภาพไม่ดีได้ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้จึงได้มีผลิตภัณฑ์รักษาผมร่วงหลายรูปแบบมาก แต่สิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบางได้ดี เห็นผลชัดที่สุดคือการศัลยกรรมปลูกผมถาวรนั่นเอง

ในด้านการศัลยกรรมปลูกผมถาวรนั้นก็มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ คือปลูกผม FUT และปลูกผม FUE โดยในบทความนี้เราจะขอเน้นไปถึงการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งเป็นวิธีปลูกผมถาวรแบบใหม่และเป็นที่นิยมใช้ในการศัลยกรรมปลูกผมถาวรว่าปลูกผม FUE คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เทียบกับการปลูกผมแบบอื่น ๆ แล้วต่างกันตรงไหน รวมไปถึงวิธีการปลูกผม FUE 

ปลูกผม FUE คืออะไร



การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) คือวิธีรักษาแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านด้วยการปลูกผมถาวรรูปแบบหนึ่ง โดยการปลูกผมถาวร FUE จะใช้การย้ายเซลล์รากผมที่สภาพดีจากจุดที่เหมาะสมไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

การปลูกถ่ายเซลล์รากผมนี้จะช่วยให้ผมที่ปลูกถ่ายขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด และเมื่อการปลูกถ่ายสำเร็จก็จะไม่เกิดการหลุดร่วงซ้ำ อีกทั้งการปลูกผม FUE จะไม่สร้างบาดแผลขนาดใหญ่จนกลายเป็นแผลเป็นแต่อย่างใด เมืื่อแผลที่เกิดจากการย้ายเซลล์รากผมหายดีแล้ว คนไข้สามารถแสกผมหรือจะโกนผมก็ไม่เห็นรอยแผลเป็นที่ชัดเจนเลย

ปลูกผม FUE แก้ปัญหาใดได้บ้าง
การปลูกผม FUE สามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ศีรษะเถิกที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนเพศที่ทำให้เซลล์รากผมเดิมเสื่อมลงจนทำให้ผมที่ขึ้นมาใหม่ไม่แข็งแรง หลุดร่วงง่าย หรือหากเซลล์รากผมเดิมตายลงก็จะทำให้ผมไม่ขึ้นมาอีก กลายเป็นศีรษะล้านขึ้นมา

โดยการปลูกผมถาวร FUE นั้นจะใช้รักษาอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เซลล์รากผมเสื่อมสภาพจนไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการไม่ผ่าตัดได้อีก ทั้งนี้เพราะการปลูกผม FUE ก็เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมผ่าตัด ขึ้นชื่อการผ่าตัดก็ย่อมมีความเสี่ยง อีกทั้งหลายครั้งหลังผ่าตัดก็อาจเกิดปัญหาผมร่วงในบริเวณอื่นได้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นการปลูกผม FUE ไม่สามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้กับทุกคน ผู้ที่จะสามารถรักษาด้วยการปลูกผม FUE ได้นั้นจำเป็นจะต้องมีเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยที่มีจำนวนมากและแข็งแรงสมบูรณ์อยู่

เพราะการปลูกผม FUE เป็นการย้ายเซลล์รากผมจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หากผมบริเวณท้ายทอยมีไม่มากพอก็ไม่สามารถนำไปปลูกผม FUE ได้ และถึงแม้ว่าจะมีจำนวนมากพอแต่หากเซลล์รากผมไม่แข็งแรง การนำเซลล์รากผมที่ไม่สมบูรณ์ไปปลูกผม FUE อาจทำให้ผลลัพท์ที่ได้ไม่ชัดเจนหรือปลูกผม FUE ไม่ขึ้นได้

ปลูกผม FUE มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร
การปลูกผม FUE ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดบางประการ ผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาผมร่วง ผมบางอาจลองชั่งน้ำหนักถึงข้อดีและข้อจำกัดของการปลูกผมแบบ FUE จากหัวข้อนี้ก่อนได้เลย

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE
-การปลูกผม FUE เจ็บตัวน้อยกว่า เพราะไม่ต้องกรีดตัดหนังศีรษะเพื่อแยกเซลล์รากผมมาใช้ในการปลูกผม
-การปลูกผม FUE จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่ชัดเจน ผู้ที่ผ่านการปลูกผมถาวร FUE จะสามารถตัดผมสั้นหรือโกนผมได้โดยไม่เห็นรอยแผลบนหนังศีรษะ
-การปลูกผม FUE นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยเท่านั้น สามารถนำเซลล์รากขนจากบริเวณอื่นมาใช้ปลูกถ่ายได้ด้วย
-การปลูกผม FUE เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ไม่มีการเย็บแผล ทำให้ระยะเวลาการพักฟื้นสั้น แผลหายเร็วไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้รำคาญใจ
-การปลูกผม FUE มีอัตราการรักษาสำเร็จค่อนข้างสูง ผมที่งอกให้หลังปลูกผมมักจะแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย
-เส้นผมที่ขึ้นด้วยการปลูกผม FUE จะมีความเป็นธรรมชาติมาก

ข้อจำกัดของการปลูกผมแบบ FUE
-ค่าใช้จ่ายในการรักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านด้วยการปลูกผม FUE ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
-การปลูกผม FUE เป็นการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณหนึ่งไปอีกบริเวณหนึ่ง ทำให้บริเวณเดิมไม่มีผมขึ้นมาใหม่ เพราะบริเวณนั้นไม่มีเซลล์รากผมอยู่แล้ว
-การปลูกผมแบบ FUE จำเป็นต้องโกนผมบริเวณที่จะดึงเซลล์รากผมไปใช้ปลูกผม
-เซลล์รากผมที่ดึงมาอาจไม่สามารถใช้ได้ทุกส่วน เพราะอาจเกิดความเสียหายขณะดึงออกมาได้
-ไม่สามารถรักษาอาการผมร่วง ผมบางจากปัญหาบางอย่าง เช่นเชื้อราบนหนังศีรษะ ผมร่วงจากการขาดสารอาหาร ผมร่วงจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงชั่วขณะ ผมร่วงที่เกิดจากโรคบางอย่าง และผมร่วงที่เกิดจากปัญหาทางจิตใจ เช่น พฤติกรรมชอบดึงผมตนเอง

การเตรียมตัวสำหรับการปลูกผม FUE



หากตัดสินใจได้ว่าจะเข้ารับการรักษาผมร่วง ผมบางด้วยการปลูกผมถาวร FUE และแพทย์ประเมินแล้วว่าามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ แพทย์จะให้เรากลับไปเตรียมตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับการปลูกผม FUE โดยการเตรียมตัวมักจะคล้าย ๆ กัน ดังนี้

-พักผ่อนให้เพียงพอ
-งดการทำผมทุกรูปแบบในช่วงก่อนมาปลูกผม FUE และในวันที่เข้ารับการรักษาจะต้องสระผมก่อนปลูกผมด้วย
-งดการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE
-งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE
-งดรับประทานอาหารประเภทหมักดองก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE
-ควรรับประทานอาหารให้พร้อมก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE
-ในวันที่เข้ารับการปลูกผม FUE ให้สวมเสื้อคอกว้างหรือเสื้อเชิ๊ตติดกระดุมหน้า เพื่อให้สามารถถอดเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ง่าย อีกทั้งหลังเข้ารับการรักษาก็จะสามารถสวมกลับได้โดยหลีกเลี่ยงบริเวณผ่าตัดได้สะดวกกว่า
-ในวันที่เข้ารับการปลูกผม FUE ไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือนำของมีค่าติดตัวมา
-ในวันที่เข้ารับการปลูกผม FUE ควรมีผู้ติดตามมาด้วยอย่างน้อย 1 คน เพราะการปลูกผม FUE เป็นการผ่าตัดที่จะให้ยาชาหรือยานอนหลับขณะทำการรักษา หลังผ่าตัดคนไข้อาจมีอาการมึนงงจากฤทธิ์ยาได้

สำหรับบางเคสที่คนไข้มีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาบางอย่างแพทย์มักจะมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับการปลูกผม FUE เพิ่มเติม เช่น

-งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีฤทธิ์ทำให้เลือดไม่แข็งตัวเป็นอย่างน้อย 7 วัน
-งดใช้ยาที่ช่วยให้เส้นผมดกขึ้นเป็นอย่างน้อย 7 วัน
-คนไข้ที่เป็นโรคความดันสูงจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะยาที่ใช้รักษาความดันอาจมีผลต่อยาที่ใช้ในขณะผ่าตัด

ขั้นตอนการปลูกผม FUE
ขั้นตอนการปลูกผม FUE มีดังนี้

-แพทย์จะวาดแนวผมที่จะปลูกตามความเหมาะสมและการตกลงของคนไข้ก่อน และจากนั้นจะทำการคำนวณจำนวนกอผมที่จะดึงออกมาใช้สำหรับปลูกผม (ในที่นี้จะใช้คำว่ากราฟ แทนกอผม ในการปลูกผม 1 กราฟคือ 1 กอผม ใน 1 กอผมจะมีเซลล์รากผมอยู่ประมาณ 1-4 เส้น)

-แพทย์ทำการโกนผมบริเวณที่จะเอาเซลล์รากผมออก จากนั้นจะฉีดยาชาหรือยานอนหลับให้คนไข้ รวมถึงการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อบริเวณที่จะทำการดึงเซลล์รากผมและบริเวณที่จะปลูกถ่ายเซลล์ผม

-แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะไปบริเวณที่ต้องการดึงเซลล์รากผมในแนวที่ขนาดกับเซลล์รากผม

-ดึงเซลล์รากผมที่ผ่านการเจาะแล้วออกมา เพื่อเตรียมสำหรับการนำไปปลูกถ่ายในบริเวณที่ต้องการต่อไป ในระหว่างเก็บเซลล์รากผมให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ เซลล์รากผมที่ถูกดึงออกมาก่อนจะถูกแช่อยู่ในน้ำยาเลี้ยงเซลล์เพื่อให้เซลล์รากผมอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด

-หลังจากเก็บเซลล์รากผมได้ตามจำนวนที่ต้องการ แพทย์จะฉีดยาห้ามเลือดและเจาะรูบริเวณที่ต้องการปลูกถ่ายรากผมลงไปและนำเซลล์รากผมที่เก็บมาใส่ลงไปบริเวณที่เจาะรูจนครบ แล้วทำการปิดบริเวณที่ปลูกผมด้วยผ้าพันแผลและสามารถกลับบ้านได้ทันที คนไข้ควรพันผ้าพันแผลต่อไปอย่างน้อย 1-2 วัน

การดูแลตนเองหลังปลูกผม FUE



เพื่อให้การปลูกผม FUE ประสบความสำเร็จสูงสุด หลังรับการปลูกผม FUE ไปแล้วคนไข้ควรดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้

-ไม่จับ แกะ เกา สัมผัสในบริเวณที่ปลูกผมในช่วง 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด เพราะในระหว่างนี้เซลล์รากผมยังไม่เชื่อมติดกับเนื้อเยื่อ หากถูกกระทบกระเทือนอาจทำให้เซลล์รากผมที่ย้ายมาหลุดออก และกลายเป็นปัญหาปลูกผม FUE ไม่ขึ้นได้

-สามารถสระผมได้หลังจากพ้น 24 ชั่วโมงแรกไปแล้ว แต่จะต้องกระทำอย่างเบามือที่สุด ไม่เกาหนังศีรษะ และใช้น้ำยาสระผมสูตรอ่อนโยนไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์

-ในช่วง 1 เดือนแรกหลังปลูกผม FUE ห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ปลูกผมใหม่ น้ำที่ใช้ล้างผมจะต้องเป็นน้ำอุณหภูมิปกติและความแรงของน้ำน้อย ขณะทำผมให้แห้งให้ทำเพียงแค่การซับเบา ๆ ไม่ใช้ไดร์เป่าผม

-ในช่วงหลังปลูกผม FUE แรก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดบวมแผลและเพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์ผมที่เพิ่งปลูกลงไปขณะนอนหลับ ให้ใช้ผ้าพันแผลบริเวณที่ปลูกผมไว้ ขณะนอนก็ให้ใช้หมอนรองคอไม่ให้เกิดการกดทับแผล และควรนอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม

-งดการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์โดยเฉพาะการว่ายน้ำควรงดไปอย่างน้อย 1 เดือน

-งดอาหารหมักดอง การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงหลังปลูกผม

-พยายามหลีกเลี่ยงให้ศีรษะโดยแสงแดด เพราะความร้อนจากแสงแดดอาจทำให้เซลล์รากผมเสื่อม ปลูกผมไม่ติดได้

-หลังปลูกผมไปแล้ว 1 เดือนสามารถทำสีผมหรือดัดผมได้ตามปกติ

-รับประทานยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อตามคำสั่งแพทย์
-หากพบอาการผิดปกติ เช่น ไข้ขึ้นสูง ปวดบริเวณที่ปลูกผมอย่างผิดปกติ มีเลือดออกมาก ไม่มีความรู้สึกบริเวณหนังศีรษะ ให้รีบพบแพทย์ทันที

อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังปลูกผม FUE

หลังรักษาผมร่วง ผมบางด้วยการปลูกผม FUE แล้วก็อาจพบอาการข้างเคียงได้ เช่น

-อาการปวดบวม เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ มักจะหายไปเองหลังปลูกผม FUE ไปประมาณ 7 วัน ระหว่างนี้สามารถลดอาการปวดบวมได้โดยการประคบเย็น ขณะประคบเย็นควรมีผ้าพันแผลบริเวณที่ปลูกผมอยู่คลอด

-อาการคันหนังศีรษะ โดยอาจเกิดจากสะเก็ดแผลที่เกิดจากการปลูกผม ไม่ควรเกาแกะสะเก็ดแผล ทำได้เพียงการลูบเบา ๆ หรือทายาลดอาการคัน

-ในช่วงแรกอาจพบอาการผมร่วงได้บ้าง แต่ผมที่ร่วงไม่ได้มีเซลล์รากผมติดมาด้วยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นผมก็จะงอกใหม่ขึ้นมาได้เอง

ปลูกผม FUE ต่างกับปลูกผมแบบอื่นอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการปลูกผมถาวรจะมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ คือการปลูกผม FUE และ ปลูกผม FUT แต่เพราะความก้าวหน้าในเทคนิคและอุปกรณ์ที่ใช้ปลูกผม ทำให้การปลูกผมที่นิยมใช้ในปัจจุบันจะมีอยู่ 4 วิธี คือ FUT FUE DHI และ Longhair ทั้ง 4 วิธีมีข้อแตกต่างกันในด้านวิธีการรักษาและอุปกรณ์ที่ใช้ ดังนี้

-ปลูกผม FUT : เป็นการปลูกผมถาวรแบบดั้งเดิม จะใช้การตัดหนังศีรษะบริเวณที่มีเซลล์รากผมแข็งแรงออกส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงใช้การคัดแยกเซลล์รากผมออกจากชิ้นเนื้อภายใต้กล้องจุลทรรศน์แล้วค่อยนำเซลล์รากผมที่แยกได้ไปปลูกบริเวณที่ต้องการ

โดยการปลูกผม FUT จะให้เซลล์รากผมได้เยอะกว่า แต่เพราะต้องตัดหนังศีรษะทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นและใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า

-ปลูกผม FUE : เป็นการปลูกผมถาวรที่พัฒนาต่อมาจาก FUT โดยยังเป็นการย้ายเซลล์รากผมจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเหมือนเดิม แต่จะไม่ใช้การตัดหนังศีรษะเพื่อแยกเซลล์รากผมและใช้การเจาะบริเวณที่ต้องการใช้เพื่อดึงเซลล์รากผมออกมาเท่านั้น

-การปลูกผม FUE จะเจ็บตัวน้อย ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นชัดเจน แต่เซลล์รากผมที่เจาะออกมาอาจไม่สามารถใช้ได้ทุกส่วน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ด้วย

-ปลูกผม DHI : เป็นการปลูกผม FUE ที่ใช้เครื่องมือที่ดีกว่าการปลูกผม FUE ปกติ โดยขั้นตอนการเก็บเซลล์รากผมของ DHI ยังเหมือนกับปลูกผม FUE ต่างกันที่ขั้นตอนการย้ายเซลล์รากผมลงบริเวณที่ต้องการ สำหรับ FUE จะใช้คีมคีบรากผมลงในบริเวณที่เจาะ แต่ DHI จะใช้ปากกาปลูกผม ที่สามารถเจาะแล้ปลูกผมลงไปได้เลยในครั้งเดียว

-ปลูกผม Longhair : เป็นการปลูกผมที่มีวิธีเดียวกับปลูกผม FUE และปลูกผม DHI เลย เพียงแต่ต่างกันที่การปลูกผม 2 แบบแรกจะต้องโกนผมให้สั้นก่อนแล้วค่อยเจาะเอาเซลล์รากผมไปใช้ แต่การปลูกผม Longhair จะใช้ผมเส้นยาวในการปลูกผมเลย ทำให้ผลที่ได้นอกจากจะไม่เห็นแผลผ่าตัดแล้ว ยังไม่ต้องรอให้ผมขึ้นยาวเลย เพราะใช้ผมส่วนที่ยาวอยู่แล้วในการปลูกผม

ปลูกผม FUE อยู่ถาวรไหม
การปลูกผม FUE เป็นการปลูกผมถาวร เพราะผมที่ขึ้นใหม่เป็นผมที่เกิดจากเซลล์รากผมของคนไข้เอง โดยการรักษาเป็นเพียงการย้ายเซลล์รากผมในบริเวณที่มีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายมาไว้บริเวณที่ต้องการ ทำให้ผมที่ขึ้นมาใหม่หลังปลูกผมเป็นเส้นผมที่มีความแข็งแรง และเป็นธรรมชาติ

ปลูกผม FUE เจ็บไหม
ในขั้นตอนระหว่างการปลูกผม FUE นั้นแพทย์จะฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับ คนไข้จะไม่รู้จึกเจ็บขณะทำการผ่าตัดปลูกผม FUE แต่อย่างใด

สรุปปลูกผม FUE



การปลูกผม FUE เป็นวิธีการรักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการรักษาที่เห็นผลได้ชัดและประสบความสำเร็จสูง อีกทั้งการปลูกผม FUE ยังเจ็บตัวน้อย ไม่สร้างรอยแผลเป็นหลังรักษา อีกทั้งผมที่ขึ้นยังสามารถอยู่ได้อย่างถาวรอีกด้วย
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย sz463257

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google