ชาร์จไฟรถยนต์ Plug-in Hybrid ของ BMW ไม่ใช่เรื่องยาก

การชาร์จไฟรถยนต์ Plug-in Hybrid ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าใครก็สามารถชาร์จได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพียงทำตามวิธีที่อมรเพรสทีจแนะนำดังต่อไปนี้ รถยนต์ Plug-in Hybrid ของ BMW สามารถรองรับการชาร์จได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จจากสายที่ให้มากับรถ เหมาะสำหรับการชาร์จผ่านปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องชาร์จผ่านตู้ชาร์จหรือวอลล์บ็อกซ์ หรือจะชาร์จผ่านสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ รวมถึงตู้ชาร์จที่ออกแบบมาสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ก็จะช่วยร่นระยะเวลาชาร์จให้สั้นลงได้

การชาร์จไฟรถยนต์ Plug-in Hybrid ของ BMW สามารถเลือกโหมดผ่านหน้าจอ iDrive ได้ 3 โหมด คือ
- โหมด Maximum จะเป็นการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด เหมาะสำหรับการชาร์จผ่านตู้ชาร์จสาธารณะ หรือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
- โหมด Reduced เหมาะสำหรับการชาร์จผ่านปลั๊กไฟบ้านปกติ โดยจะใช้กำลังไฟเหมาะสมกับขนาดสายไฟตามบ้านทั่วไป ซึ่งโหมดนี้จะใช้ระยะเวลาชาร์จนานกว่าโหมด Maximum เล็กน้อย
- โหมด Low เหมาะสำหรับการชาร์จผ่านปลั๊กไฟบ้านที่ใช้สายไฟขนาดเล็ก โดยเป็นโหมดที่ใช้ระยะเวลาชาร์จนานที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้กระแสไฟฟ้ามากจนเกินไป

เมื่อเปิดฝาช่องเสียบชาร์จออก จะพบกับไฟแสดงสถานะบริเวณช่องเสียบชาร์จ โดย "สีขาว" หมายถึงรถยนต์พร้อมให้เสียบชาร์จหรือสามารถดึงสายชาร์จออกได้ จากนั้นเมื่อเสียบสายชาร์จ ไฟแสดงสถานะจะเปลี่ยนเป็น "สีส้ม" ชั่วครู่ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นไฟ "สีฟ้า" ซึ่งแปลว่ากำลังชาร์จไฟอยู่ และเมื่อแบตเตอรี่เต็ม ไฟจะเปลี่ยนเป็น "สีเขียว" เพื่อแสดงว่ารถ BMW ของคุณพร้อมที่จะโลดแล่นโดยปราศจากมลพิษแล้ว

ทั้งนี้ รถบางรุ่นอาจจำเป็นต้องกดล็อกประตูก่อน จึงจะเริ่มการชาร์จไฟไปยังแบตเตอรี่ และเมื่อชาร์จไฟเรียบร้อย ก็จำเป็นต้องปลดล็อกประตูเสียก่อน จึงจะสามารถถอดสายชาร์จออกได้

เห็นไหมว่าการชาร์จไฟรถยนต์ Plug-in Hybrid ของ BMW แสนจะง่ายดายและปลอดภัย แถมยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกต่างหาก ไว้โอกาสหน้าทางอมรเพรสทีจจะนำเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการใช้รถบีเอ็มดับเบิลยูมาฝากกันอีกเช่นเคย

#ชาร์จไฟรถยนต์
#PlugInHybrid