กระบะไฟฟ้า MINE MT30 รถ EV ที่เป็นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย

ในงาน Motor Expo 2022 หลายคนคงสะดุดตากับ MINE MT30 รถกระบะไฟฟ้าแบรนด์ไทย ของ MINE Mobility บริษัทในกลุ่ม บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ (EA) ที่ประกาศเดินหน้าเต็มสูบขับเคลื่อนธุรกิจผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100%
รถกระบะไฟฟ้า MINE MT30 เปิดตัวภายใต้แนวคิด "Driving Toward Net Zero by MINE MT30" ตอกย้ำวิสัยทัศน์มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero เพื่อสร้างความยั่งยืน "วิสัยทัศน์ของ EA มุ่งเน้นด้านพลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจขององค์กรให้ขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย Net Zero พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ" อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ กล่าว
อมร ทรัพย์ทวีกุลอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์

"MINE MT 30" เป็นรถกระบะไฟฟ้าสัญชาติไทย 100% ถูกดีไซน์ให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ ทั้งด้านโลจิสติกส์ ด้วยการดีไซน์เป็น Shutter Van หรือ Mobile Office หรือสามารถดัดแปลงเป็น Food Truck ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ด้วยการทำเป็น Campervan เป็นต้น พัฒนาขึ้นด้วยกลยุทธ์ Respect Environment กับแนวทางดำเนินงานตามกลยุทธ์ 5E คือEnvironment ตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะพาธุรกิจมุ่งสู่เป้าหมาย Net ZeroEnergy Saving เป็น EV Truck พลังงานบริสุทธิ์ ช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์Electric EV Truck ฝีมือคนไทย 100%Ease สะดวกในการบำรุงรักษาด้วยศูนย์บริการชั้นนำอย่าง Cockpit ที่มีจุดบริการกว่า 90 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ

Experience เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง เหมาะกับทุกธุรกิจและไลฟ์สไตล์
MINE MT30 มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่น อาทิ ระบบชาร์จเร็วพิเศษ DC Ultra-fast charge Max. 70 kW (15 min/100 km) ใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion (NMC) ความจุ 30 kWh ผ่านมาตรฐานทดสอบความปลอดภัย UN R100 และมาตรฐานกันน้ำ IP67 สามารถบรรทุกได้ถึง 1 ตัน ด้วยพื้นที่กระบะบรรทุกขนาดใหญ่พิเศษ พื้นเรียบเปิดได้ 3 ด้าน ยาว 2.5 เมตร ยาวกว่ากระบะตอนเดียวทั่วไป 18 ซม. ทำให้วางไม้กระดานได้เต็มแผ่น ขับขี่คล่องตัว ด้วยระบบพวงมาลัยช่วยผ่อนแรงแบบ EPS ใต้ท้องรถช่วงแบตเตอรี่สูง 360 มม. จึงมั่นใจเมื่อต้องขับผ่านที่ที่น้ำท่วมสูงในส่วนของศูนย์บริการนั้น ได้สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งาน ด้วยการจับมือกับ Cockpit เปิดตัวศูนย์บริการ ที่จะทำให้เข้ารับบริการบำรุงรักษาได้อย่างสะดวก ด้วยศูนย์บริการชั้นนำที่มีจุดบริการมากกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ




นอกจากค่าย MINE Mobility แล้ว ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยก็กำลังคึกคักด้วยจำนวนผู้เล่นที่กระโจนเข้าสู่สนามนี้กันมากมาย อาทิ HORIZON PLUS ที่ประกาศเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ส่งมอบรถอีวีล็อตแรกปี 67 บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด (HORIZON PLUS) เกิดจากการผสานความร่วมมือระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ผู้นำด้านระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร หนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ของ ปตท. กับ Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. (FOXCONN) ผู้นำเทคโนโลยีนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าบนพื้นที่ 313 ไร่ ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อําเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี เพื่อผลิตรถอีวีที่ทันสมัย รวมถึงการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสร้างนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการ เสริมสร้างทักษะบุคลากรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ใช้เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังการผลิตเริ่มต้น 50,000 คันต่อปี และจะขยายเป็น 150,000 คันต่อปี ในปี 2573 การก่อสร้างจะแล้วเสร็จสามารถเริ่มการผลิตและส่งมอบรถอีวีได้ในปี 2567
ฮอริษอน พลัส


เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัท BYD Co. ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ก็ประกาศแผนการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านอกประเทศจีนเป็นแห่งแรก ซึ่งจะสร้างขึ้นที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนที่ผ่านมา ประเทศจีนส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 5.9 หมื่นคัน มีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 176% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน รวมทั้ง สมาคมข้อมูลตลาดรถยนต์นั่งจีน (China Passenger Car Association: CPCA) ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ประเทศไทยคือเป้าหมายแห่งใหม่ อันดับ3 ในการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า รองจาก เบลเยี่ยม และ อังกฤษ โดยหนึ่งเหตุผลสำคัญ คือ ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 10 ของเอเชีย รวมทั้งตั้งเป้าจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก


รวมถึงค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อีกหลายค่ายที่ประกาศตั้งศูนย์ผลิตรถยนต์อีวีในไทย เช่น GWM, Toyota, MG, Green filter, Deco, H Sem ที่ได้ลงนามกับกรมสรรพสามิตแล้วเพื่อสมัครเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของไทย และยังมีผู้ผลิตที่สนใจอีกกว่า 5 รายใหญ่ ซึ่งตรงนี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นฐานผลิตรถอีวีใหญ่ในภูมิภาคได้แน่นอน แผนพลังงานแห่งชาติที่กำหนดกรอบให้ไทยมียานยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี ที่ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าให้ปี 2030 ต้องมีการใช้รถอีวีเพิ่มมากกว่า 50% เพื่อให้ปี 2040 สามารถทดแทนยานยนต์ที่ใช้น้ำมันได้ 100% ในกลุ่มรถใหม่ การเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าของ MINE Mobility จึงไม่ใช่แค่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย แต่ยังช่วยให้ไทยสามารถลดการใช้พลังงานน้ำมัน ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการเกิดฝุ่น PM2.5 ทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการผลิตรถอีวีที่สำคัญในระดับภูมิภาคอาเซียน เกิดการจ้างงานครั้งใหญ่ มีเม็ดเงินมหาศาลถึงมือประชาชนและต่อยอดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมั่นคง