EA เชื่อการเข้ามาของ Tesla ส่งผลด้านบวก จะทำให้ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าชัดเจนขึ้น
27 มิ.ย. 65 17:54 น. /
ดู 1,365 ครั้ง /
0 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
จากงาน Opportunity Day ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนี้ (26 พฤษภาคม) บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ได้ร่วมให้ข้อมูลกับนักลงทุนเกี่ยวกับภาพของธุรกิจในอนาคต ปัจจุบันธุรกิจหลักของ EA แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไบโอดีเซล และยานยนต์ไฟฟ้า(EV)
ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดมีประเด็นของการที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tesla เข้ามาบุกตลาด EV ของไทย ซึ่งในส่วนนี้ วสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน EA มองว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อบริษัทน่าจะเป็นไปในเชิงบวกมากกว่า
"การเข้ามาของ Tesla ไม่น่าจะมีผลกระทบด้านลบเท่าใดนัก ส่วนด้านบวกน่าจะเกิดขึ้นใน 2 ด้าน คือ 1. การรับรู้ของผู้คนที่ต้องการจะใช้ EV น่าจะดีขึ้น และ 2. บริษัทอาจจะมีโอกาสได้ร่วมมือทางธุรกิจอะไรบางอย่างเกิดขึ้นได้"
ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจ EV ของบริษัทจะเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ซึ่งจะมาจากส่วนของรถบัสไฟฟ้า ซึ่งปีนี้คาดว่าจะส่งมอบได้ 1,500-2,000 คัน รวมถึงเรือไฟฟ้าที่ปัจจุบันให้บริการแล้วกว่า 20 ลำ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะขยายการผลิตในส่วนของรถบรรทุกไฟฟ้า ซึ่งปีนี้ก็น่าจะเห็นการผลิตในระดับหลายร้อยคัน
นอกจากส่วนของยานยนต์เชิงพาณิชย์แล้ว บริษัทได้ลงทุนใน EV Ecosystem ด้านอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของแบตเตอรี่ที่ปีนี้จะขยายกำลังการผลิตเป็น 2 กิกะวัตต์ รวมถึงแท่นชาร์จซึ่งจะเน้นติดตั้งตามอู่จอดรถบัสและรถบรรทุก รวมถึงสถานที่ต่างๆ ในตัวเมือง เช่น ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร
"ไตรมาสแรกบริษัทได้เข้าซื้อกิจการ Smart Bus ซึ่งปัจจุบันมีใบอนุญาตเดินรถ 37 เส้นทาง ด้วยจำนวนรถ 1,250 คันในกรุงเทพฯ แต่จุดที่อยากให้มองคือ การจดทะเบียนรถบัสใหม่ต่อปีอยู่ที่ 7,000-10,000 คัน ซึ่งรถ EV ถูกกว่าในแง่การบริหารจัดการ ทำให้ทุกคนน่าจะสนใจเปลี่ยนมาใช้ EV ในอนาคต"
วสุกล่าวต่อว่า อีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทเริ่มเข้าไปศึกษามากขึ้นคือพลังงานจากขยะ ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนรายได้ของโรงไฟฟ้าเดิมที่สัญญา Adder กำลังจะหมดลง ในส่วนนี้บริษัทให้ความสนใจ 2 ส่วนหลัก ได้แก่
การบริหารจัดการของเสีย ที่ผ่านมาค่อนข้างมีปัญหามากในไทย ปัจจุบันบริษัทเริ่มต้นจากการเข้าไปประมูลเพื่อรับบริหารจัดการในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มเห็นในไตรมาส 2 นี้
พลังงานจากขยะ ในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับการยื่นซองประมูล และกว่าจะรับรู้รายได้อาจจะใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 ปี เพราะต้องใช้เวลาในการสร้างโรงงาน
"ทุกครั้งที่เราเข้าไปในธุรกิจที่ไม่ถนัด เราจะพยายามหาพันธมิตรที่เข้มแข็งในธุรกิจนั้นๆ แต่ขณะนี้ยังขอเก็บเป็นความลับก่อน"
สำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต บริษัทคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจ EV 40% ธุรกิจแบตเตอรี่ 20% และเป็น Working Capital 40% ซึ่งเงินลงทุนนี้ส่วนหนึ่งจะมาจากการออกหุ้นกู้แบบ Convertible Bond โดยน่าจะออกขายภายในเดือนกรกฎาคมนี้
"ไตรมาส 3 นี้เราจะเห็นการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดดในส่วนของธุรกิจ EV ปีนี้เชื่อว่าจะเป็นปีที่ตื่นเต้นในการลงทุน EV Ecosystem และทั้งปีนี้น่าจะเห็นรายได้ของบริษัทเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ส่วนเรื่องของมูลค่าหุ้นที่ปัจจุบัน P/E สูงราว 50 เท่า หลังจากนี้ตัวเลขน่าจะค่อยๆ ลดลงจากฐานกำไรที่สูงขึ้น"
เครดิต : THE STANDARD WEALTH : https://thestandard.co/ea-believe-coming-of-tesla-is-a-plus/
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google