รถบัสไฟฟ้า ความหวังใหม่ของรถโดยสารสาธารณะของ กทม.
29 ส.ค. 63 13:51 น. /
ดู 9,146 ครั้ง /
4 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ช่วงนี้ได้เห็นข่าวเปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้าและ เรือไฟฟ้า ของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA แล้วรู้สึกดีใจที่ในที่สุดคนไทยก็จะได้ใช้ขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาดเหมือนประเทศอื่นๆ ที่เคยไปเที่ยวสักที ว่าแล้วเลยคิดย้อนไปถึงสมัยสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ใครเคยใช้ระบบขนส่งมวลชนหรือรถโดยสารสาธารณะภายในกรุงเทพฯ ทุกคนจะได้เริ่มใช้บริการรถเมล์แดงของ ขสมก. กับรถมินิบัสเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งในยุคนั้นรถเมล์แดงมีแต่ประเภท Open air คือไม่มีเครื่องปรับอากาศภายในรถ จนยุคต่อมาก็เริ่มมีรถบัสฟ้าที่มีเครื่องปรับอากาศภายในตัว จนมาถึงยุคปัจจุบันถึงแม้ว่าจะผ่านหลายปีแล้ว แต่รถโดยสารสาธารณะของคนกรุงเทพฯก็ยังคงเอกลักษณ์เหมือนเดิม คือยังมีครบทุกรุ่นวิ่งอยู่บนถนน ทั้งรุ่นดึกดำบรรณ์ รุ่นบุกเบิกที่อายุอานามตัวรถไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งทุกรุ่นที่ว่าไปจะมาพร้อมควันดำ (มาก) พวยพุ่งออกจากท่อไอเสียตลอดเวลา ซึ่งควันดำนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของฝุ่นพิษPM 2.5 ที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนกรุงเทพฯเป็นอย่างมาก
พอช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน กรุงเทพฯ ก็มีรถไฟฟ้า BTS และรถใต้ดิน MRT มาแบ่งเบาภาระรถประจำทางสาธารณะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถประจำทางลดการปล่อยมลพิษลงไปแต่อย่างใดเพราะไม่ว่าบนรถนั้นจะมีผู้โดยสารหรือไม่ยังไงรถก็ปล่อยควันพิษอยู่ดี ยกเว้นว่าไม่ต้องให้รถประจำทางเหล่านั้นมาวิ่งบนถนน ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะก็ยังคงมีผู้โดยสารหลายพันหลายหมื่นยังคงใช้บริการอยู่เป็นประจำอยู่ดี แต่การที่มีรถไฟฟ้า BTS และ MRT เข้ามาทำให้หลายๆคนได้รู้ว่ายังมีพลังงานอยู่อีก 1 ตัว ที่ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่ปล่อยฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วในการเดินทางได้สูงด้วย นั่นคือการขับเคลื่อนด้วย "พลังงานไฟฟ้า"
แล้วทำไมเราไม่พัฒนารถโดยสารสาธารณะไปใช้พลังงานไฟฟ้าล่ะ? สิ่งนี้เป็นคำถามที่คาดว่าหลายคนน่าจะนึกถามกัน ซึ่งรถบัส หรือรถโดยสารสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า มีใช้ในต่างประเทศมาค่อนข้างนานแล้ว แต่ในประเทศไทยคงเป็นเพราะราคา กับข้อจำกัดทางเทคโนโลยี รวมถึงไม่มี "หัวเรือใหญ่" ที่จะมาพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในประเทศไทยอย่างชัดเจน ทำให้ยังไม่ถูกพัฒนามาใช้ จนมาถึงวันนี้ วันที่เรามีบริษัทที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการพัฒนาเรื่องนี้ จนถึงขั้นที่สามารถผลิตรถบัสไฟฟ้าใช้ในประเทศได้จริงแล้วและที่ผ่านมานั้นได้ถูกนำมาใช้จริงแล้วด้วย
จากรูป คือรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า Mine bus รุ่น EV-X12 ของบริษัท พลังงานบริสุทธ์ หรืออีเอ ที่เป็นหัวแรงใหญ่ของนวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ ได้ร่วมกับ Smart bus เริ่มทดลองวิ่งตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาโดยให้บริการฟรีในเส้นทาง สาย 29 ม.ธรรมศาสตร์รังสิต - หัวลำโพง ,สาย 504 รังสิต - สะพานกรุงเทพ ,สาย 554 รังสิต -สนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะวิ่งให้บริการ#ฟรีไม่เก็บค่าโดยสารใดๆทั้งสิ้นซึ่งส่วนตัวได้เคยลองนั่งแล้วบอกได้เลยว่านิ่มและนั่งสบายเลยทีเดียว นอกจากจะมีรถบัสไฟฟ้าวิ่งแล้ว ตัวบริษัทฯยังได้ส่งเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry ที่ได้จดทะเบียนเป็นเรือพลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทยมาให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วด้วย โดยเรือจุผู้โดยสารได้กว่า200 คนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 800 KWh ที่ราคาเที่ยวละ 20 บาท (ข้อมูลตรงนี้ไม่ชัวร์ จขกท.ถามหลายคนบอก 20 บาท แต่ จขกท.ยังไม่เคยไปขึ้นนะ ใครเคยขึ้นแล้วรู้ราคามายืนยันอีกที) ที่สำคัญคือออกแบบและผลิตโดยคนไทย 100%
จะเห็นได้ว่าพอมีหัวแรงใหญ่แล้วพัฒนาอย่างต่อเนื่องบริษัทคนไทยก็สามารถผลิตนวัตกรรมใหม่ๆได้เหมือนกัน ขออย่างเดียวคือรัฐฯอาจต้องลงมาช่วยสนับสนุนตรงส่วนนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะรุ่นควันดำเป็นรถไฟฟ้าให้หมด ไม่แน่ปัญหาผงฝุ่น PM 2.5 อาจลดลงอย่างมากก็เป็นได้ สุดท้ายใครเคยใช้บริการบ้างมาเล่าสู่กันฟังได้นะว่ารู้สึกอย่างไร
ที่มา: https://pantip.com/topic/40141093
พอช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน กรุงเทพฯ ก็มีรถไฟฟ้า BTS และรถใต้ดิน MRT มาแบ่งเบาภาระรถประจำทางสาธารณะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถประจำทางลดการปล่อยมลพิษลงไปแต่อย่างใดเพราะไม่ว่าบนรถนั้นจะมีผู้โดยสารหรือไม่ยังไงรถก็ปล่อยควันพิษอยู่ดี ยกเว้นว่าไม่ต้องให้รถประจำทางเหล่านั้นมาวิ่งบนถนน ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะก็ยังคงมีผู้โดยสารหลายพันหลายหมื่นยังคงใช้บริการอยู่เป็นประจำอยู่ดี แต่การที่มีรถไฟฟ้า BTS และ MRT เข้ามาทำให้หลายๆคนได้รู้ว่ายังมีพลังงานอยู่อีก 1 ตัว ที่ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่ปล่อยฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วในการเดินทางได้สูงด้วย นั่นคือการขับเคลื่อนด้วย "พลังงานไฟฟ้า"
แล้วทำไมเราไม่พัฒนารถโดยสารสาธารณะไปใช้พลังงานไฟฟ้าล่ะ? สิ่งนี้เป็นคำถามที่คาดว่าหลายคนน่าจะนึกถามกัน ซึ่งรถบัส หรือรถโดยสารสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า มีใช้ในต่างประเทศมาค่อนข้างนานแล้ว แต่ในประเทศไทยคงเป็นเพราะราคา กับข้อจำกัดทางเทคโนโลยี รวมถึงไม่มี "หัวเรือใหญ่" ที่จะมาพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในประเทศไทยอย่างชัดเจน ทำให้ยังไม่ถูกพัฒนามาใช้ จนมาถึงวันนี้ วันที่เรามีบริษัทที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการพัฒนาเรื่องนี้ จนถึงขั้นที่สามารถผลิตรถบัสไฟฟ้าใช้ในประเทศได้จริงแล้วและที่ผ่านมานั้นได้ถูกนำมาใช้จริงแล้วด้วย
จากรูป คือรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า Mine bus รุ่น EV-X12 ของบริษัท พลังงานบริสุทธ์ หรืออีเอ ที่เป็นหัวแรงใหญ่ของนวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ ได้ร่วมกับ Smart bus เริ่มทดลองวิ่งตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาโดยให้บริการฟรีในเส้นทาง สาย 29 ม.ธรรมศาสตร์รังสิต - หัวลำโพง ,สาย 504 รังสิต - สะพานกรุงเทพ ,สาย 554 รังสิต -สนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะวิ่งให้บริการ#ฟรีไม่เก็บค่าโดยสารใดๆทั้งสิ้นซึ่งส่วนตัวได้เคยลองนั่งแล้วบอกได้เลยว่านิ่มและนั่งสบายเลยทีเดียว นอกจากจะมีรถบัสไฟฟ้าวิ่งแล้ว ตัวบริษัทฯยังได้ส่งเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry ที่ได้จดทะเบียนเป็นเรือพลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทยมาให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วด้วย โดยเรือจุผู้โดยสารได้กว่า200 คนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 800 KWh ที่ราคาเที่ยวละ 20 บาท (ข้อมูลตรงนี้ไม่ชัวร์ จขกท.ถามหลายคนบอก 20 บาท แต่ จขกท.ยังไม่เคยไปขึ้นนะ ใครเคยขึ้นแล้วรู้ราคามายืนยันอีกที) ที่สำคัญคือออกแบบและผลิตโดยคนไทย 100%
จะเห็นได้ว่าพอมีหัวแรงใหญ่แล้วพัฒนาอย่างต่อเนื่องบริษัทคนไทยก็สามารถผลิตนวัตกรรมใหม่ๆได้เหมือนกัน ขออย่างเดียวคือรัฐฯอาจต้องลงมาช่วยสนับสนุนตรงส่วนนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะรุ่นควันดำเป็นรถไฟฟ้าให้หมด ไม่แน่ปัญหาผงฝุ่น PM 2.5 อาจลดลงอย่างมากก็เป็นได้ สุดท้ายใครเคยใช้บริการบ้างมาเล่าสู่กันฟังได้นะว่ารู้สึกอย่างไร
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google