เคมีที่มาพร้อมกับจิตใจที่งดงาม มิวกลัฟ บอกเล่าถึงที่มาที่ไปของการร่วมโครงการดีดีเพื่อสังคม

มีทั้งโมเมนต์น้วยๆ และเรื่องราวดีดีมาให้เหล่าแฟนๆ ได้ภาคภูมิใจกันอยู่เสมอเลย สำหรับ 2 หนุ่ม มิวกลัฟ
เพราะหลังจากได้ไปโชว์ส่งต่อความรักความห่วงใยให้ทุกคนได้ร่วมทำบุญกับองค์กรเพื่อสังคมอย่าง UNICEF
แล้ว ทั้งคู่ยังได้มาร่วมนั่งพูดคุยเปิดใจถึงเบื้องหลังการเตรียมโชว์ในงานนี้ รวมถึงส่งตรงความคิดถึงไปยังเหล่า
หวานใจด้วย


เปิดมา MC ให้พูดถึงความรู้สึกในช่วงโควิดที่ผ่านมาที่ไม่ได้เจอแฟนๆ
กลัฟ "คิดถึงครับ เพราะเวลาพวกเราออกอีเวนต์จะมีพี่ๆ แฟนคลับไปตามเชียร์เยอะมาก พอช่วงโควิดที่ผ่านมา
พวกเราจะไลฟ์เป็นส่วนใหญ่ ทำงานอะไรเราก็จะใช้ผ่านทางโซเชียลเป็นหลัก เราจะได้เห็นแค่ข้อความที่พี่ๆ พิมพ์มา
แต่ไม่ได้เห็นเขามายืนถ่ายรูปกัน"

มิว "ก็เหมือนกันครับ คิดถึงมากจริงๆ เพราะว่าอย่างที่น้องกลัฟบอกไปเวลาเราไปงานจะมีแฟนคลับมาเชียร์เยอะมาก ๆ แต่จากการที่เราเปลี่ยนอีเวนต์เป็นไลฟ์แทน ทำให้เราไม่ได้เจอหน้าเขา เราก็เลยลองวิธีการใหม่ เป็นไลฟ์ด้วยกันและก็จะมีช่วงตอบคำถาม ตั้งคำถามมาถ้าใครตอบเร็วก็ให้แฟนคลับมาคุยกับพวกเราเลยในไอจี"




เรื่องที่แฟนๆ คอยเทรนด์แฮชแท็กให้ทั้งตอนมีงานและไม่มีงานทั้งคู่ก็รู้สึกขอบคุณทุกคนมาก 






ส่วนความรู้สึกที่ได้มีรูปไปขึ้นป้ายบิลบอร์ดที่ไทม์สแควร์ ในเมืองนิวยอร์ก
มิว "ดีใจมาก เป็นความฝันเลย อยากลองขึ้นดูเพราะเราก็เห็นอย่างแบล็กพิงก์
ไรพวกนี้ไปขึ้นไทม์สแควร์ ก็เลยถ้ามีโอกาส เขาทำให้จะลองบินไปเลย แต่ว่าตอนนี้ก็ดันมีสถานการณ์ที่
ไม่สามารถไปที่ตรงนั้นได้ ก็เลยมีแฟนคลับถ่ายรูปถ่ายคลิปมาให้พวกเราดู" ชอบความใส่ใจที่อยาก
ไปเห็นโปรเจ็กต์ที่แฟนๆ ทำให้ด้วยตาตัวเองนี้จัง




และ MC ให้กลัฟโชว์ร้องเพลง วาฬเกยตื้น เวอร์ชั่น 3 ภาษาให้ฟังกันสดๆ เลย
ดีงามมมากกกกกกเต็ม 100 ไม่หัก

https://twitter.com/workpointtoday/status/1267359309219971074


ร้องจบแล้วยิ้มแฉ่ง เป็นเอ็นดู  MC เลยถามว่าฝึกนานไหม เจ้าตัวบอก นานเหมือนกันครับ
เพราะด้วยความไม่ใช่ภาษาของบ้านเรา ก็อาจจะมีเพี้ยนๆ นิดหน่อย ก็ขอโทษด้วยครับ




ของคนพี่ที่ในโชว์มีทั้งร้องทั้งเต้น ก็ใช้เวลาในการเตรียมตัว 1 อาทิตย์ เป็น 1 อาทิตย์ที่ซ้อมหนักมาก
เพราะไม่เคยร้องด้วยเต้นไปด้วย พอได้มาลองทำก็เหนื่อยมากๆ หายใจไม่ทัน เราต้องแยกประสาททั้ง
ร้องทั้งเต้น ช่วงแรกๆ ไม่รู้จะโฟกัสที่ไหนดี ก็เลยต้องซ้อมเยอะมากๆ




เกี่ยวกับกระแสซีรีส์ที่ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ยัยน้องบอกว่า ตอนมาแคสต์หวังแค่มาหาประสบการณ์ ก็ไม่คิดว่าพอเราได้เล่นบทนำเรื่องแรกปุ๊บ ทุกคนจะชอบกันเยอะขนาดนี้ เกินคาดมาก
ส่วนคุณพี่ ตั้งเป้าไว้แค่เรื่องการแสดง เพราะเข้ามาเราอยากเป็นนักแสดงที่ดี เราอยากตอบโจทย์ว่าบทที่เราได้เล่น
มันเป็นไปตามโจทย์คนดูอินรึเปล่า ไม่ได้คาดหวังว่ากระแสจะดีจะมีแฟนคลับเยอะ และที่เราได้รับมาเป็นความเกินคาด




และให้ฝากอะไรถึงแฟนๆ
กลัฟ "คิดถึงทุกคนมากนะครับ อยากไปยืนให้พี่ๆ ถ่ายรูปกันแล้วนะครับผม"
มิว "คิดถึงจริงๆ ขอบคุณมากๆ ที่ผ่านมาและก่อนหน้าคอยให้กำลังใจ สนับสนุนพวกเราทั้ง 2 คน มันทำให้มีแรง
ในการทำงาน มีแรงในการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ก็หวังว่าตอนที่เราได้เจอเราจะพัฒนาฝีมือและก็มีอะไรมาโชว์
ให้ทุกคนได้ดู"






พูดถึง TharnType the Series ซีซั่น 2 เจ้ากลัฟสปอยล์ว่า ไม่เหมือนในนิยาย
ก่อนที่คนพี่จะเสริมว่า แบบนิยายบทน้อยถ้าถ่ายจะได้แค่ 4-5 ตอน ผู้เขียนเลยต้องเติมบทให้เป็น 13 ตอน ในส่วนที่เพิ่มนี่เอาเรื่องราวในชีวิตจริงใส่เข้าไปใช่ไหมคะ //ยื่นไมค์ 




ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมโครงการดีดีแบบนี้
กลัฟ คือ ได้ยินชื่อองค์กรมาตั้งแต่เด็กๆ ดูฟุตบอลและเห็นทีมบาร์เซโลน่าเขาจะมีโลโก้ที่เสื้อ
การได้มาร่วมงานก็ดีใจ เพราะว่าเป็นงานบุญและได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาด้วย
มิว เคยมีโอกาสได้เป็นครูฝึกสอน ตอนเรียนป.เอกอยู่ที่จุฬา เลยรู้ว่ามีปัญหากับเยาวชนอยู่ ก็เลยคิดว่าถ้าได้มามีส่วน
ร่วม เราสามารถเป็นกระบอกเสียงบางส่วนได้ ฮือโซลเมทคู่บุญบารมี ยิ่งรู้จักยิ่งได้รู้ว่าเหล่าหวานใจ
เลือกรักคนไม่ผิดจริงๆ ^^




ปิดท้ายด้วยประโยค หว่ออ้ายหนี่ ของกลัฟ ที่งานนี้ไม่รู้ มอบให้กับแฟนคลับหรือแฟนครับที่อยู่ข้างๆ กันแน่ 

https://twitter.com/marriedmewgulf/status/1267822746727112714

#มิวศุภศิษฏ์ #กลัฟคณาวุฒิ