อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาดต้องเริ่มตั้งแต่แรกเกิด
26 ส.ค. 62 11:16 น. /
ดู 591 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงคิดแบบนี้ใช่ไหมคะ แต่ทำยังไงดีละให้ลูกๆฉลาด เติบโตแข็งแรงสมวัย คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะเลี้ยงลูกเอง ไม่มีพี่เลี้ยงหรือปู่ย่าตายาย หรืออาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กๆในแต่ละช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิด 6 ขวบมาฝากค่ะ
พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กตามช่วงวัยของลูกน้อย
ในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย จะมีพัฒนาการเจริญเติบโตและพฤติกรรมด้านต่างๆ ตามช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสนใจ และกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยอยู่เสมอ ดังนี้ค่ะ
วัยแรกเกิด 6 เดือน
ในช่วง 3 เดือนแรก เป็นช่วงรากฐานแห่งการเติบโตและต้องการการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกจะถูกพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังแรกเกิด สมองช่วงนี้จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว สมองทุกส่วนจะพัฒนาพร้อมๆกัน จะเห็นพฤติกรรมพัฒนาการของเด็กชัดเจน เช่น การดูด การกางนิ้ว การพัฒนากล้ามเนื้อต่างๆ ลูกจะเริ่มจดจำใบหน้า คุณพ่อคุณแม่ได้ เด็กจะสื่อสารกับพ่อแม่ผ่านทาง ท่าทาง น้ำเสียง การหัวเราะ ร้องไห้ เริ่มจดจำเสียงพ่อแม่ได้ สามารถขยับตัวได้มาก เช่น พลิกตัว คว่ำหงาย และ นั่ง
6 12 เดือน
ช่วงนี้ร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้น เพื่อพัฒนาไปยังการใช้ร่างกายที่มากขึ้น เช่น เริ่มคลาน ตั้งไข่ และเดินกระเตาะกระแตะ ส่วนพัฒนาการทางสมอง จะมีพฤติกรรมชอบทำอะไรซ้ำๆ โดยช่วงนี้สมองส่วนความจำจะพัฒนาอย่างมาก เพื่อพร้อมสำหรับการเรียนรู้ทุกประเภท โดยจะสร้างความจำและมีการเรียนรู้จากพฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น การโบกไม้โบกมือ ก้มหัวสวัสดี พูดคำสั้นๆง่ายๆได้ อย่าง แม่ พ่อ กิน ช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณแม่จะเห็นนิสัยที่ชัดเจนขึ้น จากกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ที่เจ้าตัวน้อยชอบทำนั่นเอง
วัย 1 ปี
ระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังน่ารักและซนของลูกเนื่องจากสมองจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% ของผู้ใหญ่ เซลล์ต่างๆ มีการขยายอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของวัยทองแห่งการเรียนรู้ นั่นคือพัฒนาการของเครือข่ายใยประสาท โดยสมองจะทำหน้าที่ประสานกันในการควบคุมร่างกาย ให้ยืน เดิน กระโดด ได้ดีขึ้น การรับข้อมูลผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 7 การประมวลข้อมูล และการตอบสนอง เป็นช่วงเริ่มต้นของการเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย และร่างกายที่เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที เด็กจะจดจำคำศัพท์ได้เยอะขึ้น เริ่มพูดคำ 2-3 คำได้ หยิบอาหารกินเองได้ เริ่มเห็นนิสัยที่ชัดเจนมากขึ้น เดินได้ด้วยตัวเอง
วัย 2 ปี
ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนและมีพฤติกรรมชอบทำตามเด็กวัยเดียวกัน เด็กสามารถจดจำใบหน้าและชื่อคนทั่วไปได้ดี เพิ่มจำนวนการจดจำชื่อของคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านหรือเพื่อนเล่นได้ รวมถึงสามารถบอกชื่อตัวเอง กินข้าวเองได้ ทำกิจกรรมง่ายๆ ด้วยตัวเอง เช่น ร้องเพลง เต้นตามจังหวะเป็นท่าทางต่างๆ
วัย 3-4 ปี
สมองเพิ่มน้ำหนักเป็น 60% และจะพัฒนาสติปัญญาให้เพิ่มขึ้นด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรม การเรียนรู้คำศัพท์ ภาษา ความอยากรู้อยากเห็น และความคิดที่มีเหตุผลมากขึ้น จะเริ่มมีคำถามที่ซับซ้อนขึ้น คุณแม่สามารถเสริมทักษะต่างๆ ให้ลูกได้ในช่วงเวลานี้ เช่น มีกิจกรรมร่วมกันกับเจ้าตัวน้อย เล่นเกม เล่านิทานเสริมจินตนาการ โดยเครือข่ายใยประสาทก็ยังพัฒนาต่อในช่วงวัยนี้ เพราะจะช่วยให้ลูกสามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง เล่าเรื่องต่างๆที่พบเจอด้วยตนเองหรือจำจากที่คุณแม่เล่าได้ดีขึ้น
วัย 5-6 ปี
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่สมองสั่งการให้เด็กๆ ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นมากแล้ว สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แบบเด็กที่โตแล้ว มีการเรียนรู้ประสบการณ์ มีความจำ คิดคำนวณได้ เช่น การบวกเลขหลักเดียว สามารถอยู่ตามลำพังโดยไม่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลาได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ คุณแม่ควรพาลูกออกไปพบกับผู้คน ได้ท่องเที่ยวในโลกกว้างได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ถือเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยเรื่องพัฒนาการสมอง พัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสังคม เป็นไปในทางที่ดี
เพราะพัฒนาการด้านสมองและร่างกายมีความสัมพันธ์กัน คุณแม่ควรให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เด็กที่มีพัฒนาการที่ดี ก็จะช่วยให้สุขภาพจิตดีไปด้วย ทั้งนี้เป็นพัฒนาการโดยรวมตามช่วงอายุปกติของเด็กเล็ก อาจจะมีช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ หลังจากช่วงอายุนี้การสร้างเครือข่ายใยประสาทจะลดลงและส่วนที่ไม่ได้ใช้ก็จะถูกตัดแต่งให้หายไป เพราะฉะนั้นช่วงอายุ 0 6 ปี เป็นช่วงที่สำคัญในการพัฒนาสมองและร่างกายของลูก เป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด คืออาหารที่ถูกหลักโภชนาการของลูกน้อย
นม อาหารที่เหมาะสมและจำเป็นต่อลูกน้อย
หากคุณแม่อยากเลี้ยงลูกน้อยให้เป็นเด็กฉลาดเติบโตและแข็งแรงสมวัย อาหารคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะวัยเริ่มต้นช่วง 1-6 ขวบ เพราะจะส่งผลในระยะยาวกับพัฒนาการทางด้านสมองอาหารที่คุณแม่เลือกจึงต้องมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและร่างกายของลูกน้อย ถึงจะแยกเป็นพัฒนาการของแต่ล่ะช่วงวัยที่แตกต่างกันก็ตาม แต่สารอาหารที่เหมาะสมและขาดไม่ได้คือ กรดอะมิโนและโอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งมีอยู่ในนม เพราะ นม ขึ้นชื่อว่าเป็น อาหารสำคัญที่สุดตั้งแต่แรกเกิด ในนมมีโปรตีนที่สำคัญมากต่อการพัฒนาร่างกายและสมองเด็ก รวมถึงสารอาหารที่สำคัญอย่าง กรดอะมิโนจำเป็น หลังจากลูกน้อยหย่านมแม่แล้วต้องมั่นใจว่า นมที่เลือกมาให้ลูกน้อยทานต่อนั้นจะมีสารอาหารจำเป็นและมีกรดอะมิโนครบถ้วน นอกจากนี้ในนมยังมีสารอาหารที่สำคัญอื่นๆ ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟระบุไว้ว่ามีผลต่อการเจริญเติบโต สร้างภูมิคุ้มกัน และพัฒนาการสมองให้เฉลียวฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และโภชนาการที่ดีจะเสริมความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ด้วย ได้แก่ แคลเซียม วิตามินเอ สังกะสี วิตามินอี โปรแตสเซียม วิตามินซี แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินดี
การเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆให้เติบโตแข็งแรงสมวัยทั้งด้านสมองและร่างกาย ล้วนเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านคาดหวัง เพราะการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ใน 1 วันถือเป็นเรื่องสำคัญ การเสริมด้วย นม จึงเป็นเรื่องดี เพื่อให้สมองและร่างกายของลูกน้อยของคุณพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เติบโตเฉลียวฉลาดสมวัยอีกด้วยคะ
ขอบคุณขอบที่มาจาก : https://www.foremostthailand.com/โภชนาการเสริมพัฒนาการเด็ก/พัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย?utm_source=socialsubmision&utm_medium=content&utm_campaign=2019
พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กตามช่วงวัยของลูกน้อย
ในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย จะมีพัฒนาการเจริญเติบโตและพฤติกรรมด้านต่างๆ ตามช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสนใจ และกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยอยู่เสมอ ดังนี้ค่ะ
ในช่วง 3 เดือนแรก เป็นช่วงรากฐานแห่งการเติบโตและต้องการการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกจะถูกพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังแรกเกิด สมองช่วงนี้จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว สมองทุกส่วนจะพัฒนาพร้อมๆกัน จะเห็นพฤติกรรมพัฒนาการของเด็กชัดเจน เช่น การดูด การกางนิ้ว การพัฒนากล้ามเนื้อต่างๆ ลูกจะเริ่มจดจำใบหน้า คุณพ่อคุณแม่ได้ เด็กจะสื่อสารกับพ่อแม่ผ่านทาง ท่าทาง น้ำเสียง การหัวเราะ ร้องไห้ เริ่มจดจำเสียงพ่อแม่ได้ สามารถขยับตัวได้มาก เช่น พลิกตัว คว่ำหงาย และ นั่ง
6 12 เดือน
ช่วงนี้ร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้น เพื่อพัฒนาไปยังการใช้ร่างกายที่มากขึ้น เช่น เริ่มคลาน ตั้งไข่ และเดินกระเตาะกระแตะ ส่วนพัฒนาการทางสมอง จะมีพฤติกรรมชอบทำอะไรซ้ำๆ โดยช่วงนี้สมองส่วนความจำจะพัฒนาอย่างมาก เพื่อพร้อมสำหรับการเรียนรู้ทุกประเภท โดยจะสร้างความจำและมีการเรียนรู้จากพฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น การโบกไม้โบกมือ ก้มหัวสวัสดี พูดคำสั้นๆง่ายๆได้ อย่าง แม่ พ่อ กิน ช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณแม่จะเห็นนิสัยที่ชัดเจนขึ้น จากกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ที่เจ้าตัวน้อยชอบทำนั่นเอง
วัย 1 ปี
ระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังน่ารักและซนของลูกเนื่องจากสมองจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% ของผู้ใหญ่ เซลล์ต่างๆ มีการขยายอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของวัยทองแห่งการเรียนรู้ นั่นคือพัฒนาการของเครือข่ายใยประสาท โดยสมองจะทำหน้าที่ประสานกันในการควบคุมร่างกาย ให้ยืน เดิน กระโดด ได้ดีขึ้น การรับข้อมูลผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 7 การประมวลข้อมูล และการตอบสนอง เป็นช่วงเริ่มต้นของการเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย และร่างกายที่เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที เด็กจะจดจำคำศัพท์ได้เยอะขึ้น เริ่มพูดคำ 2-3 คำได้ หยิบอาหารกินเองได้ เริ่มเห็นนิสัยที่ชัดเจนมากขึ้น เดินได้ด้วยตัวเอง
วัย 2 ปี
ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนและมีพฤติกรรมชอบทำตามเด็กวัยเดียวกัน เด็กสามารถจดจำใบหน้าและชื่อคนทั่วไปได้ดี เพิ่มจำนวนการจดจำชื่อของคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านหรือเพื่อนเล่นได้ รวมถึงสามารถบอกชื่อตัวเอง กินข้าวเองได้ ทำกิจกรรมง่ายๆ ด้วยตัวเอง เช่น ร้องเพลง เต้นตามจังหวะเป็นท่าทางต่างๆ
วัย 3-4 ปี
สมองเพิ่มน้ำหนักเป็น 60% และจะพัฒนาสติปัญญาให้เพิ่มขึ้นด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรม การเรียนรู้คำศัพท์ ภาษา ความอยากรู้อยากเห็น และความคิดที่มีเหตุผลมากขึ้น จะเริ่มมีคำถามที่ซับซ้อนขึ้น คุณแม่สามารถเสริมทักษะต่างๆ ให้ลูกได้ในช่วงเวลานี้ เช่น มีกิจกรรมร่วมกันกับเจ้าตัวน้อย เล่นเกม เล่านิทานเสริมจินตนาการ โดยเครือข่ายใยประสาทก็ยังพัฒนาต่อในช่วงวัยนี้ เพราะจะช่วยให้ลูกสามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง เล่าเรื่องต่างๆที่พบเจอด้วยตนเองหรือจำจากที่คุณแม่เล่าได้ดีขึ้น
วัย 5-6 ปี
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่สมองสั่งการให้เด็กๆ ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นมากแล้ว สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แบบเด็กที่โตแล้ว มีการเรียนรู้ประสบการณ์ มีความจำ คิดคำนวณได้ เช่น การบวกเลขหลักเดียว สามารถอยู่ตามลำพังโดยไม่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลาได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ คุณแม่ควรพาลูกออกไปพบกับผู้คน ได้ท่องเที่ยวในโลกกว้างได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ถือเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยเรื่องพัฒนาการสมอง พัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสังคม เป็นไปในทางที่ดี
เพราะพัฒนาการด้านสมองและร่างกายมีความสัมพันธ์กัน คุณแม่ควรให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เด็กที่มีพัฒนาการที่ดี ก็จะช่วยให้สุขภาพจิตดีไปด้วย ทั้งนี้เป็นพัฒนาการโดยรวมตามช่วงอายุปกติของเด็กเล็ก อาจจะมีช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ หลังจากช่วงอายุนี้การสร้างเครือข่ายใยประสาทจะลดลงและส่วนที่ไม่ได้ใช้ก็จะถูกตัดแต่งให้หายไป เพราะฉะนั้นช่วงอายุ 0 6 ปี เป็นช่วงที่สำคัญในการพัฒนาสมองและร่างกายของลูก เป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด คืออาหารที่ถูกหลักโภชนาการของลูกน้อย
นม อาหารที่เหมาะสมและจำเป็นต่อลูกน้อย
หากคุณแม่อยากเลี้ยงลูกน้อยให้เป็นเด็กฉลาดเติบโตและแข็งแรงสมวัย อาหารคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะวัยเริ่มต้นช่วง 1-6 ขวบ เพราะจะส่งผลในระยะยาวกับพัฒนาการทางด้านสมองอาหารที่คุณแม่เลือกจึงต้องมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและร่างกายของลูกน้อย ถึงจะแยกเป็นพัฒนาการของแต่ล่ะช่วงวัยที่แตกต่างกันก็ตาม แต่สารอาหารที่เหมาะสมและขาดไม่ได้คือ กรดอะมิโนและโอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งมีอยู่ในนม เพราะ นม ขึ้นชื่อว่าเป็น อาหารสำคัญที่สุดตั้งแต่แรกเกิด ในนมมีโปรตีนที่สำคัญมากต่อการพัฒนาร่างกายและสมองเด็ก รวมถึงสารอาหารที่สำคัญอย่าง กรดอะมิโนจำเป็น หลังจากลูกน้อยหย่านมแม่แล้วต้องมั่นใจว่า นมที่เลือกมาให้ลูกน้อยทานต่อนั้นจะมีสารอาหารจำเป็นและมีกรดอะมิโนครบถ้วน นอกจากนี้ในนมยังมีสารอาหารที่สำคัญอื่นๆ ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟระบุไว้ว่ามีผลต่อการเจริญเติบโต สร้างภูมิคุ้มกัน และพัฒนาการสมองให้เฉลียวฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และโภชนาการที่ดีจะเสริมความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ด้วย ได้แก่ แคลเซียม วิตามินเอ สังกะสี วิตามินอี โปรแตสเซียม วิตามินซี แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินดี
การเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆให้เติบโตแข็งแรงสมวัยทั้งด้านสมองและร่างกาย ล้วนเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านคาดหวัง เพราะการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ใน 1 วันถือเป็นเรื่องสำคัญ การเสริมด้วย นม จึงเป็นเรื่องดี เพื่อให้สมองและร่างกายของลูกน้อยของคุณพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เติบโตเฉลียวฉลาดสมวัยอีกด้วยคะ
ขอบคุณขอบที่มาจาก : https://www.foremostthailand.com/โภชนาการเสริมพัฒนาการเด็ก/พัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย?utm_source=socialsubmision&utm_medium=content&utm_campaign=2019
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google