ประสบการณ์สอบข้อเขียน+ปฏิบัติ+สัมภาษณ์ เอกการละคร มหาลัยแห่งหนึ่ง.

5 มี.ค. 59 01:18 น. / ดู 1,437 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีค่ะ
เอาสั้นๆง่ายๆเลยเนาะ เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การไปสอบมหาลัยค่ะ
คณะที่เราไปสอบนี่เป็น ศิลปกรรมศาสตร์นะคะ ศิลปะการแสดง เอกการละคร
ชื่อมหาลัยไม่ขอบอกนะคะ
เริ่มแรกเลยค่ะ คณะนี้แยกออกมาเปิดรับเอง คือจะไม่มีเอกนี้ในรับตรง งงป่าว คือคณะเค้า
ต้องการเด็กที่มีทักษะและใจรักจริงๆอะ เลยไม่อยากรับใครสุ่มสี่สุ่มห้า
ต่อเลยเนาะ เค้าให้เราเนี่ยส่งใบสมัครไปทางไปรษณีย์ พร้อมหลักฐานบลาๆ
ในส่วนค่าสมัครนี่แพงหูฉีกมากกกกก สี่หลักเลยนะ แต่เค้าก็รวมค่าหนังสือการแสดงอะแหละ
(คณะจะจัดส่งให้ หลังจากเราส่งใบสมัครไปแล้ว) พอหนังสือมาถึงนี่ตื่นเต้นมากก เปิดอ่านซ้ำๆ
ในเนื้อหาหนังสือส่วนมากก็จะเป็นด้านการวิเคราะห์องค์ประกอบการแสดงต่างๆ
บทพูด ตัวละคร สถานการณ์ บลาาาๆ ละก็มีบทพูดเดี่ยวให้เราเลือกไปสอบ
(ในกรณีที่ผ่านสอบข้อเขียนแล้ว) เราขอเรียกมันว่า หนังสือดำ นะคะ เพราะมันสีดำงะ55555
ต่อเลย หน้าหลังสุด ก็จะเป็นใบออดิชั่นค่ะ สำหรับยื่นให้อาจารย์ตอนสอบปฏิบัติ
ให้กรอกชื่อ ประวัติ บลาๆ ติ้กเลือกบทที่จะแสดง บอกความสามารถพิเศษ เหตุผลที่อยากเข้า
ก็เขียนไปเนาะ ให้ปริ้นรูปขนาดโปสเตอร์ ทั้งเฮดช็อต บอดี้ช็อต (ยังกะเดอะเฟส5555)
ละก็ถึงเวลาลุยข้อสอบบบบ

แตตตตตตต่ เราขอข้ามข้อเขียนไปเลยเนาะ จะดูสปอยไปป่าว เพราะข้อเขียนที่นี้ ไม่ได้ยาก
แต่ก็ไม่ได้ง่ายน้าา ต้องมีรายชื่อในใบผู้ผ่านข้อเขียนก่อน ถึงจะได้ไปสอบในภาคปฏิบัติ

มาถึงช่วงสอบปฏิบัติ ไม่นานมานี้เองค่ะ ปลายเดือนก่อนๆ ><
คณะเค้าให้เราใส่เสื้อดำกางเกงวอร์มสีสุภาพไป ละก็มีกระดาษสติ้กเกอร์หมายเลขประจำตัวสอบ
แปะไว้ทั้งหน้าและหลัง (เหมือนไปออดิชั่นค่ายเพลงเลยย 5555)
พอช่วงประมาณเก้าโมงกว่าๆ รุ่นพี่ในสาขาที่เป็นสตาฟ ก็ให้เราเข้าไปห้องๆนึง เป็นห้องเรียนนี่แหละค่ะ
แต่กว้าง โต๊ะเก้าอี้ก็วางไว้ข้างๆ มีอาจารย์และรุ่นพี่เยอะแยะไปหมดเลย
เค้าให้เราทำกิจกรรมก่อนสอบ เหมือนๆกับการ workshop ก่อนอะค่ะ รุ่นพี่จะพาเราวอร์ม
พาเราแนะนำตัว ให้ละลายพฤติกรรม บลาาๆ เหมือนกับเค้าต้องการดูเชิงเราอะค่ะ
ว่าจะแสดงศักยภาพออกมาได้ดีแค่ไหน ละก็มีให้แบบจับกลุ่มกัน ไม่เกินหกคน ละอาจารย์เค้าก็ให้บทละครมา
เป็นเรื่อง ขวัญกับเรียมอะค่ะ ละก็ให้แสดง โดยที่สามารถดูบทได้ ก็ถือว่ารอดตาย เพราะว่ามีเวลาเตรียมตัวให้
แค่10นาที หรือ15นี่แหละ จำไม่ได้55555 ส่วนเรื่องแสดงก็ตามมีตามเกิดของคนมาสอบอะนะ
บางคนก็แอคติ้งเต็มมาก ส่วนมากจะเก่งกันทั้งนั้น คนด้อยก็มี แต่ก็ไมไ่ด้แย่เกิน
ลืมบอกก555 คนมาสอบปฏิบัติ 36 คนค่ะ แต่ไม่มา 2 คน ดูโล่งอกนิดนึง แต่ที่เหลือก็ตัวเต็งทั้งนั้น
เก่งกันมากๆ ทุกคนมีคาแรคเตอร์ค่ะ คือเราประมาทไม่ได้ ต้องทำให้เต็มที่ คือดึงศักยภาพออกมาให้หมด
ถือว่าสนุกมากๆ ยิ่งworkshop ยิ่งอยู่นานๆ ก็ยิ่งอยากเรียน คือคณะนี้เค้าอบอุ่นดีอะ อยากเรียนมากๆ5555

พอถึงเวลาพัก เค้าก็ให้เราพักทานข้าว ละมาให้ถึงคณะก่อนเที่ยงครึ่ง เพื่อที่จะมาเซตเพลงตัวเอง
ที่จะใช้สอบความสามารถพิเศษอะค่ะ พอทุกคนส่งเสร็จแล้ว รุ่นพี่ก็จะพากลับเข้าไปห้องเดิม
นั่งตามเลขที่ประจำตัวสอบ ละก็รอเวลาให้อาจารย์เค้าเรียกหมายเลข 1 ไป 5555 เป็นวินาทีที่ตื่นเต้นสุดๆ
ก่อนที่รุ่นพี่จะเข้ามาเรียกก็ชิลกันนะคะ คุยเล่นสนุกสนาน เพื่อนๆก็เฟรนลี่กันมาก ตลก ติสดี 55555
พอเค้ามาเรียกหมายเลข1ไปเท่านั้นแหละ นกเลยค่ะ ห้องเงียบ ทุกคนหันหน้าเข้าหาหนังสือดำ
ละก็อ่านบทของตัวเอง รุ่นพี่เค้าก็เหมือนไม่อยากให้เราเครียดอะ เค้าก็เลยพาเล่นเกม ชวนคุย
รุ่นพี่ก็ใจดีค่ะ ตลก 555555 หัวเราะไม่หยุดเลย 55555 ละก็จะมีแนะแนวบ้างเพื่อไม่ให้เราเครียด
จนกระทั่งถึงคิวเราค่ะ เกือบปลายๆเลย เราก็ถือตุ๊กตาน้อยของเราไป
(คือบทที่เราเล่นเป็นบทคนบ้าค่ะ) ไปนั่งรอหน้าห้องสอบ ใจก็เต้นตุบๆ คนก่อนหน้าเราเค้าก็เก่งมากๆ
เล่นบทเดียวกันด้วย ตอนแรกแอบกลัวว่าจะโดนเปรียบเทียบรึป่าว แต่จุดๆนั้นก็ต้องปล่อยวางอะคะ
ทำสมองให้โล่งมากๆ จำบทให้ได้ก็พอ เราอยากแนะนำสำหรับใครที่จะไปสัมภาษณ์นะคะ
คือในความคิดเราอะ เราว่าถ้ายิ่งเตรียมตัวตอบคำถามมาอะไรเงี้ย เราว่าพังนะ แฮร่ๆ
คือประมาณถ้ากรรมการถามในสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมมาอะ เราก็ต้องตอบให้ได้ คือเค้าวัดไหวพริบเรา
ไปแบบโล่งๆ เค้าถามไรมาก็ตอบ ตอบสุภาพ อาจารย์ทุกคนใครเค้าก็อยากได้ลูกศิษย์ที่อ่อนน้อมค่ะ
ไม่ต้องตอบสวยหรูมาก เอาแบบจริงใจที่สุด ให้เค้าเห็นความเป็นตัวเรา ความธรรมชาติมากๆของเรา
มันจะดูเรียลกว่าละน่ารักกว่านะคะ แค่แนะนำเฉยๆน๊าา5555

ต่อเลยเนาะ พอเข้าห้องปุ้บ ขอเรียกว่าห้องดำนะคะ เพราะห้องเป็นสีดำ 5555
มีโต๊ะกรรมการนั่งประมาณ 5 คน ข้างหลังเป็นรุ่นพี่อีกสิบ TT____TT คือตอนนั้นเราแอบกดดันอะ
ไม่ตื่นเต้นนะ แต่กดดัน ห้องก็เงียบมากกก เราก็ทำได้แค่ยิ้มให้กรรมการอะ 55555 ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก
เค้าก็ถามเราว่า พร้อมมั้ย ก็ต้องตอบชัดๆ ว่าพร้อมค่ะ ละก็ให้เราแนะนำตัว ก็แนะนำสั้นๆพอค่ะ
ชืออะไรมาจากโรงเรียนอะไร ละเค้าก็ให้เราเริ่มแสดงเลย คือแบบห้องเงียบเว่อจนเราไม่กล้าเล่นเท่าไหร่
แต่พอได้พูดไปเรื่อยๆ ฟีลลิ่งก็มาค่ะ ไม่รู้ในสายตากรรมการเราโรคจิตแค่ไหน แต่เสียงเราหลอนพอสมควร5555
แต่เล่นได้ไม่ถึงครึ่งบทก็ให้เราหยุด คือตอนนั้นใจเสียแล้วค่ะ คิดไปต่างๆนานา กรรมการไม่ชอบหรอ ถึงให้หยุด
ก็คิดมากเนาะ55555 ต่อ ละเค้าก็ให้เราแสดงความสามารถพิเศษ เราเลือกเต้นค่ะ เพราะชอบอะ 55555
เราก็เต้นไป มันส์อยู่คนเดียว กำลังจะจุดพีค ท่อนฮุคละ ก็ให้เราหยุด อ่าวว คิดมากคูณสอง ไม่ชอบรึป่าววะ55555

ต่อมา เค้าก็เปิดพล็อตเราดู ละจู่ๆเค้าก็แบบ ให้เราแสดงด้นสดอะค่ะ เป็นเมียทหาร
คือในพล็อตเราเป็นหลีดไง ละเราแสดงเป็นเมียทหารชื่อบุญจัน คือนางไปส่งสามีนางไปรบแต่นางไม่อยากให้ไป
อะไรทำนองเนี้ย เราก็แบบตกใจอะ จริงๆ คือไม่คิดว่าจะให้เราเล่น
เค้าก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องเล่นตามที่เราเคยเล่นมา คืออยากจะบอกกรรมการมากว่า จารย์คะ คือตอนหนูเล่น
แค่วิ่งมากอดๆ อุ้มละก็หมุนๆ ไหว้ศาลละก็กลับเข้าฉากค่ะ ไม่มีบทพูด 55555 นั้นก็คือ เราต้องคิดสด
ในตอนนั้นคือคิดไม่ออกอะ จะพูดว่าไรดี คิดไม่ออกจริงๆ เราก็เลยตายเอาดาบหน้าซะ บทสดเลย
คิดไรก็พูด ตามฟีลลิ่ง ตายเป็นตาย55555 ละกรรมการเค้าก็ให้รุ่นพี่ปีสองในสาขาอะค่ะ
มาเล่นเป็นพี่บุญจันทร์ให้เรา (น่ารักด้วยนะ5555 สินกำเค้างานดีจริงๆ)

พี่เค้าก็ดูงงๆอะค่ะ ว่าบุญจันทร์คือใคร เราก็ไม่รู้จะบอกยังไง เพราะเวลามีน้อย คนอื่นๆจะไม่ได้สอบ
เพราะมันก็สี่โมงกว่าแล้ว ก็เลยแบบบ เอาวะ เอาไงเอากัน 55555 ก็ภาวนาให้พี่เค้าช่วยดึงเราด้วยละกัน555

อันดับแรกคิดไรไม่ออกเราก็เดินเข้าไปเกาะแขนก่อนเลยค่ะ ละก็แบบเกริ่นให้กรรมการรู้นิดนึง
เราก็พูดว่า พี่จ๋า พี่จะไปออกรบแล้ว พี่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ
แง้ เป็นการเริ่มต้นที่ดีใช่ปะละ55555 เราก็พูดๆๆๆไปเรื่อยๆ จนน้ำตาคลอ เราก็อึ้งตัวเองอะ ทำไมร้องไห้
ส่วนนึงก็กลัวกรรมการไม่ชอบ แค่30%นะ ที่เหลือฟีลลิ่งล้วนๆ
แต่รุ่นพี่ที่เล่นกับเราอะ เค้านิ่งมาก เค้าไม่พูดอะไรเลย ทำหน้าตาเคร่งเครียด เราก็ไม่รู้จะไปต่อยังไง
ก็ได้แค่แบบช่วยละพูดว่า พี่พูดอะไรบ้างสิ สักประโยคก็ยังดี
บทก็สิ้นคิด ไม่สมกับยุคสมัยเท่าไหร่55555 กรรมการก็แซวพี่เขาอะ ว่าพูดอะไรบ้างก็ได้ 55555
ทั้งห้องก็หัวเราะกัน เราก็เกือบจะหลุดละ อีกนิดเดียว555555 แต่ก็ดึงตัวเองกลับมาได้
สุดท้ายพี่เขาก็แบบหันหน้ามา แอคติ้งจัดเต็มมาก สีหน้า แววตาคือใช่เลยอะ
ละก็พูดว่า ดูแลตัวเองดีๆนะ คือตอนนั้นเราร้องไห้เลยอะ เพราะสีหน้าพี่เขาเจ็บปวดมาก
คือคนรักเค้าจะไม่อยู่กับเราอะ เค้าจะกลับมามั้ยก็ไม่รู้ เราก็เลยเอาความรู้สึกตรงนี้ใส่ลงไปอะค่ะ
น้ำตาก็เลยไหล ละเราก็ดึงพี่เขาไว้ จำได้ว่าดึงแรงมาก จับมือแน่นมาก แต่ก็ต้องปล่อย TT
น้ำเน่าอะ 5555555 ละก็แค่นี้อะค่ะ ที่เค้าให้เราทำ

สุดท้ายคือสัมภาษณ์ คือคณะนี้เค้าสอบปฏิบัติเสร็จละก็สัมต่อเลยค่ะ โหดสุดดดด
เค้าก็ถามเรา ถามนั้นถามนี้ ก็อย่างที่เคยบอกไป ก็ต้องตอบตามความจริง
มั่นใจ ไม่ใช่มั่นหน้านะคะ บางทีเค้าก็อาจจะหมั่นใส้เราได้ ละก็ต้องจริงใจที่สุด
สร้างความแตกต่างให้ตัวเอง สัมภาษณ์ให้เป็นตัวเรา ส่วนการแสดงให้เปลี่ยนเป็นคนละคน
มันจะดูน่าสนใจกว่านะคะ สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนคณะนี้ ก็ติดตามข่าวดูนะะะ
เผื่อยังมีมหาลัยไหนเปิดรับอยู่ แต่ที่อื่นๆอาจจะไม่เหมือนกับที่นี่นะคะ ในการสอบ
แต่การแสดงมันเหมือนกันค่ะ ต้องใช้จิตวิญญาณ ใช้ความรู้สึก สร้างเรื่องราวขึ้นมา
ไหวพริบและความใจรัก เป็นสิ่งสำคัญต่อคณะนี้มากนะคะ เค้าไม่อยากได้เด็กที่ผ่านมาแล้ว
แต่สละสิทธิ์ เค้าดูเด็กเข้มมากจริงๆ

แต่ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเรา ที่เราสอบติดค่ะ ตอนนี้รอรายงานตัว
ดีใจมากๆ >____< ไม่คิดว่าจะได้เพราะคนอื่นก็เก่งกว่าเราตั้งเยอะ แต่เราคิดว่าเรไม่ได้ทำแย่นะ
555555 แต่ก็ไม่ได้ดีเว่อวังอะไร
แต่สำหรับเรามันดีมากๆเลยค่ะ ที่สอบติด คือดีใจอะ ทำให้แม่ภูมิใจสักที หลังจากผิดหวังกับเกรดเรามานาน55555

ไงเพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์สอบเกี่ยวกับคณะพวกนี้ก็มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
ขอบคุณค่ะะะ
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google