มาอนุสาวรีย์ชัยต้องไป “จ๊ากกี่” ราดทั้งทีน้อยกว่านี้ไม่ได้

ฮัลโหล ฮัลเหล เจ๊แซบขอรายงานตัวเอาหัวเขียวๆ มาทักทายขาโซ้ยที่ชอบแสวงหาอาหารอันสร้างสรรค์มาจรรโลงกระเพาะ เพราะเหนี่ยวแนวคิดอยู่เพื่อกินให้ดิ้นตาย ใครยึดหลักปักนโยบายเดียวกับเจ๊ขอเชิญมาคล้องแขนร่วมโซ้ยให้สุดแซบแบบไม่ต้องสะเทิ้นน้ำหนักที่จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว (ฮา)
  เจ๊ขอเปิดฤกษ์ประเดิมยุทธจักรนักโซ้ยด้วยร้านราดหน้าที่มีชื่อเสียงลือลั่นสนั่นบางทั้งในเรื่องของรสชาติสะท้านใจและความจองหองที่สุดแสนสะท้านทรวง “ภัตตาคารจ๊ากกี่” ร้านราดหน้าที่ยืนหยัดมานานเกือบ 60 ปี ตั้งแต่เป็นรถเข็นอยู่ริมถนนเยาวราช ก็ถูกใจชาวบ้านร้านตลาด แถมยังกวาดไกลไปถึงระดับผู้บริหารประเทศอย่างจอมพลสฤษดิ์ที่ต้องมนตร์จนต้องส่งทหารมาซื้อกลับไปให้กินถึงบ้าน ถึงแม้ย้ายร้านมาลงเสาเอกอยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็ยังมีผู้ใหญ่ระดับบิ๊กๆ ตามมาโซ้ยไม่ขาดสาย
        “ราดหน้าของที่ร้านจะออกแนวขลุกขลิก ไม่เหมือนทั่วไป คนอื่นเค้าจะออกใสหน่อย และออกสีขาว แต่อย่างร้านเราจะออกสีสันเข้มข้น ขลุกขลิก เหนียวๆ ไม่เหมือนที่อื่นๆ และเส้นจะออกเกรียมออกไหม้ สูตรนี้เป็นสูตรของพ่อ เค้าคิดเอง ไม่เหมือนใคร” เจ๊ใหญ่โต้โผสำคัญของร้านเล่าถึงราดหน้าสูตรเด็ดที่คิดค้นโดยเตี่ย รสชาติดั้งเดิมไม่มีก๊อปปีใครให้เสียอารมณ์


จากประสบการณ์ตะลอนออน “ทัวร์รับประทาน” มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านสมุทร ขอบอกว่าเส้นหมี่ของที่นี่แปลกดีไม่เหมือนใคร ไม่ใช่เส้นหมี่ผัดแบบบ้านๆ แต่เป็นเส้นหมี่ทอดกรอบในน้ำมันที่เดือดจัดจนได้สีทองเหลืองอร่าม แนะนำต้องมาหม่ำที่ร้านเพื่อรักษามาตรฐานความแซบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนเส้นใหญ่จะกลิ่นหอมไหม้ๆ ยั่วใจเกินทน แค่เส้นก็ไม่ใช่เล่นแล้ว ยิ่งเจอหมูหมัก เนื้อหมัก ที่สุดนุ่มสุดฉ่ำอร่อยล้ำหนำใจ เจ๊ใหญ่บอกเคล็ดลับไม่มีอะไรมากแค่หมักกับน้ำตาล เกลือ พริกไทย ใส่ผงหมักตามใจทิ้งไว้ประมาณสิบห้านาที เท่านี้ก็ได้หมูนุ่มชวนโซ้ย นอกจากราดหน้าหมู และเนื้อที่เป็นดาวเด่นของร้าน ยังมีราดหน้าปลาที่เจ๊แซบแสนโปรด เจ๊ใหญ่คัดเนื้อกะพงอย่างดี ไม่มีมัน ไม่มีหนัง มากวนใจ นำไปทอดจนเหลือง หอม แต่ยังคงความหวานของเนื้อปลาหาได้มีรสคาวไม่ ช่างอร่อยได้ใจเจ๊แซบจริง...จริ๊ง!!
        ความพิเศษของราดหน้ากว่าห้าทศวรรษยังไม่หมดเท่านี้ ยังมีความอลังการบนจานเปลเป็นผักคะน้า 3 ออปชัน ให้ลูกค้าเลือกตามใจ คือ ยอดผัก ที่คัดแต่ยอดจริงๆ ใบแก่ที่เกินเคี้ยวเหนียวเหงือก เจ๊ใหญ่ใจป้ำสั่งทิ้งหมด ออปชันที่ 2 คือ หัวผัก เป็นส่วนที่อยู่โคนของผักคะน้านำมาปอกให้เกลี้ยงเห็นสีขาวๆ น่ากิน กัดแต่ละคำแสนจะกรุบกรอบออปชันสุดท้ายเป็นผักหั่น แบบคลาสสิกสำหรับคนชอบคะน้าหน้าตาบ้านๆ สามแบบสามสไตล์เลือกได้ตามใจชอบ (เจ๊แซบแอบบอก เส้นใหญ่ราดหน้าปลาหัวผักเจ๊ชอบหลาย คิดแล้วน้ำลายไหล หุ...หุ)
        นอกจากความเด็ดของรสชาติราดหน้า บริการของที่นี่ยังขึ้นชื่อว่า “แย่ที่สุดคือ ไม่ได้เทกแคร์ลูกค้าเลย ยิ่งตอนยุ่งๆ ยิ่งแย่ ร้านนี้ใช้ชื่อว่าภัตตาคารก็จริงนะ แต่โวยวายที่สุด” เจ๊ใหญ่การันตีความเปรี้ยวด้วยตัวเอง แถมยังมีเสียงสนับสนุนมาจาก เจ๊ดวง น้องสาวสุดก๋ากั่น และ เจ๊มัน สาวสุดท้องผู้ครองตำแหน่งหน้าเตาบะหมี่เกี๊ยว ใครใจกล้าอย่าเสียว (โดนด่า) เจ๊แซบขอท้า ไปพิสูจน์กับตาจะรู้ว่าเจ๊ เจ๊ แอนด์เจ๊เค้ามันขนาดไหน (ฮา)



เอกลักษณ์อีกหนึ่งสิ่งที่ลูกค้าขาประจำต้องทำใจ นั่นคือ “ความช้า” เพราะทางร้านไม่ได้ทำน้ำราดตุนไว้เป็นหม้อ ขอประดิษฐ์ทีละชาม จึงเป็นเรื่องธรรมด๊า...ธรรมดาที่ต้องมารอนานเป็นชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเที่ยงถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เจ๊แซบขอแนะนำ “เกี๊ยวทอด” สูตรเด็ดกรอบถึงใจไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยเข้มเต็มรสบ๊วย ทางร้านทำเองไม่หวานเลี่ยน ไม่เหนียวเกิน จิ้มแล้วแจ่วจริงๆ ค่า...ถ้าเคี้ยวเกี๊ยวทอดเพลินๆ ยังไม่เจริญอาหารพขอแฮกึ๊นมากินแกล้มแจมความกรอบกรุบกรึบๆ ก็ทำให้ลืมความช้าของราดหน้าไปได้หนึ่งขณะหิว เคี้ยวพอชิลล์ๆ ราดหน้าจานโตก็โผล่มาพอดี แหม...ช่างเหมาะเหม็ง หรือถ้ายังไม่หนำใจระหว่างรอจะแอบจ้วงบะหมี่หมูแดง หรือซดเกี๊ยวน้ำกุ้ง เป็นออเดิร์ฟก็เริ่ดค่ะ
        กระแสความฮอต ฮิต ติดใจในรสชาติราดหน้าและลีลาของเจ๊ๆ ไม่ใช่ฟีเวอร์แค่ในกรุงเทพฯ หรือเขตปริมณฑล แต่จะระบาดไปถึงเชียงใหม่ และภูเก็ต โทร. มาสั่งให้เด็กวินมารับไปส่งขึ้นเครื่องหลายครั้งหลายครา การันตีความแรง!!!
        สำหรับลูกค้าหน้าใหม่เจ๊แซบขอเตือน ถึงราดหน้านี้ไม่มีแอร์แต่ราคาไม่ใช่ว่าจะจิ๊บๆ เพราะหลายคนถึงกับเลือดซิบๆ ตอนคิดตังค์ถึงกับต้องร้องเสียงดัง...
        “จ๊ากกี่...บาทนะ!!”
        ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...แซบ!!
พิกัดแซบ
ซอยราชวิถี 7 (วัฒนโยธิน) ซอยวันเวย์ต้องไปเข้ามาจากซอยรางน้ำ ร้านอยู่ทางขวามือ ถ้ามารถไฟฟ้าลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยฯเดินมาที่ซอยวัฒนโยธินร้านอยู่กลางซอย ที่จอดรถมี 3 จุด ถ้าจอดในห้างเซ็นเตอร์วันเสียค่าจอดรถ แต่ถ้าจอดที่ศาลเจ้าข่างหน้าและลาดจอดรถหลังร้าน ฟรี
ช่วงเวลาแซบ
11 โมงเช้า หยุดทุกวันจันทร์แรกของเดือน
เลขหมายแซบ
02-245-0849

ข้อมูลจากหนังสือ โซ้ยแหลก ซอกแซกกิน สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์