20 อันดับ นักสู้สะท้านโลกา!!!

19 มี.ค. 54 18:17 น. / ดู 82,531 ครั้ง / 7 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีชาวบอร์ดกีฬาทุกท่านครับ วันนี้ผมไม่มีอะไรจะทำ เลยมาตั้งกระทู้เล่นๆในบอร์ดนี้แก้เซ็งยามปิดเทอมครับ
สำหรับวันนี้ก็จะเป็น 20 อันดับ ของนักกีฬาต่อสู้ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งนักมวยไทย มวยสากล MMA และนักแสดงหนังบู๊ ซึ่งบางคนก็อาจจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของเราอยู่แล้ว การจัดอันดับในวันนี้เป็นการจัดลำดับโดยความชอบส่วนตัวของผมครับ ซึ่งถ้าหากขาดตกบกพร่องใครไปบ้างก็ต้องขออภัยครับ หรือใครอยากจะให้ผมเพิ่มใครเข้ามาอีก ก็สามารถรีเควสเข้ามาได้ครับ

มาดูกันดีกว่า..ว่านักสู้ทั้ง 20 คนนี้ คุณรู้จักใครบ้าง

อันดับ 1. Fedor  Emelianenko  นักสู้ MMA ที่ว่ากันว่ากันเก่งที่สุดในโลก


วิ่งเข้ามาเป็นอันดับแรกของเราในวันนี้ ก็คือนักสู้ที่ได้รับการยกย่องจากทั้งโลก ให้เป็นนักสู้ที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุดในโลก เขาคือ เฟเดอร์ อิเมเลียเนนโค

เฟเดอร์เป็นชาวรัสเซีย และเป็นสุดยอดนักกีฬาต่อสู้ที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของรัสเซียและของโลก เขาฝึกมาทั้งยูโด แซมโบ้(มวยปล้ำรัสเซีย) และมวยสากล มีดีกรีเป็นแชมป์ยูโดและแชมป์แซมโบ้หลายสมัย กวาดเหรียญทองมาแล้วไม่ต่ำกว่า 11 เหรียญ ได้สายดำยูโดแถมได้รับเกียรติให้เป็นอาจารย์สอนทั้งวิชายูโดและแซมโบ้ และเมื่อเขาหันเหเข้าสู่วงการ MMA ที่ญี่ปุ่น เขาก็สามารถสร้างชื่อเสียงได้โดยการเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทของทั้งสมาคม Rings และ Pride จนถึงกับได้รับสมญานามว่า "The Last Emperor" หรือ "จักรพรรดิองค์สุดท้าย" เนื่องจากเขาสามารถครองแชมป์ได้จนสองสมาคมนี้ปิดตัวไปก็ยังไม่มีใครสามารถชิงแชมป์ไปจากเขาได้

ตลอดการชก 29 ไฟท์ใน Rings และ Pride เขาเคยแพ้และเสมอเพียงอย่างละครั้งเท่านั้น และที่แพ้ก็ไม่ใช่แพ้เพราะฝีมือ แต่แพ้เนื่องจากพอชกไปสักพัก เขาเป็นแผลแตกและแพทย์สั่งให้ยุติการต่อสู้ทั้งๆที่เขายืนยันว่ายังสู้ต่อไปได้ ซึ่งแฟนๆของเขาถือว่าการแพ้ครั้งนั้นไม่นับ และยังถือว่าเฟเดอร์คือผู้ที่ครองสถิติไร้พ่ายอยู่

หลังจากสมาคม Pride ปิดตัวไป เฟเดอร์ได้เบนเข็มจากญี่ปุ่นมาชกให้กับสมาคม Strikeforce ของอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นสมาคมใหญ่ระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง และเขาก็แสดงความร้ายกาจ ได้เข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่สามมาครองอีกจนได้ จนกระทั่งเขาได้ชกกับ Fabricio Werdum นั้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่แฟนๆของเฟเดอร์ต้องช็อค เมื่อเฟเดอร์พ่ายแพ้อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้แฟนๆของเขาไม่พอใจ และต้องการให้เขาล้างตากับ Werdum อีกรอบ เนื่องจากยังกังขาว่าการที่เฟเดอร์แพ้นั้นเนื่องจากความประมาทของตัวเฟเดอร์เอง แต่สุดท้ายเฟเดอร์ก็ไม่ได้ล้างตากับ Werdum เพราะเมื่อเขาจับคู่ชกกับ Antonio Silva เขาก็พ่ายแพ้อีกรอบ และประกาศว่าเขาอาจจะรีไทร์จากกีฬาชนิดนี้เสียแล้ว ซึ่งนั่นทำให้แฟนๆของเขาหลายคนพากันเศร้าไปตามๆกัน

อย่างไรก็ตาม ถึงความพ่ายแพ้ใน 2 ครั้งหลัง อาจทำให้หลายๆคนที่ชื่นชมบูชาเขาพากันผิดหวัง แต่ถึงอย่างไรก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือสุดยอดของนักสู้ MMA ที่สุดยอดที่สุดในปัจจุบัน

ปล. เฟเดอร์ เคยแสดงภาพยนตร์เรื่อง The Fifth Execution ซึ่งมีหลายฉากที่ถ่ายทำในประเทศไทย และมีดาราไทยร่วมแสดงด้วย

อันดับ 2. Anderson Silva นักสู้ MMA ที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลก หากเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์


เฟเดอร์อาจเป็นนักสู้อันดับหนึ่ง แต่ถ้าเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้ว หลายคนวิเคราะห์ว่าเขายังเป็นรอง..แอนเดอร์สัน ซิลวา

แอนเดอร์สัน ซิลวา ชาวบราซิล ฉายา "The Spider" หรือ "อ้ายแมงมุม" เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หลายประเภท เขามีทักษะมวยไทยที่ดีเลิศอย่างชนิดที่คนไทยหลายคนยังทำได้ไม่ดีเท่า และยังได้สายดำเทควันโด้ สายดำยูโด สายดำบราซิลเลี่ยนยิวยิตสู และยังฝึกคาโปเอร่ากับมวยสากลอีก เรียกว่าเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ก็คงจะไม่ผิดความจริงนัก

ปัจจุบัน แอนเดอร์สัน ซิลวา ชกให้กับสมาคม UFC ซึ่งถือกันว่าเป็นหนึ่งในสมาคม MMA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเขาได้ทำลายสถิตินักสู้ผู้ครองเข็มขัดแชมป์ยาวนานที่สุด(จนป่านนี้ก็ยังเป็นแชมป์อยู่เลย) ซึ่งแอนเดอร์สัน ซิลวา ชกอยู่ในรุ่นมิดเดิลเวท

ลีลาการต่อสู้ของแอนเดอร์สัน ซิลวา มักเป็นที่ถูกใจของคนไทยหลายคน เนื่องจากเขาโชว์ทักษะมวยไทยได้อย่างยอดเยี่ยม และเขามักแสดงท่าทางดีใจเวลาชนะแบบฮาๆ(อย่างในภาพประกอบข้างบนนี้เป็นต้น) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาจัดเป็นนักสู้ที่มีมารยาท และมักจะโค้งให้คู่แข่งก่อนเริ่มทำการต่อสู้อยู่เสมอ

อันดับ 3. Rickson  Gracie นักสู้ MMA ที่ไม่เคยแพ้ใครเลยตลอดกาล


เฟเดอร์กับแอนเดอร์สันคือสุดยอดนักสู้ในปัจจุบัน แต่ถ้าพูดถึงอดีต ในสมัยยุคบุกเบิกของ MMA แล้วล่ะก็ มีนักสู้อยู่คนหนึ่ง ซึ่งมีดีกรีไม่เคยแพ้ใครเลยจวบจนปัจจุบัน เขาคนนั้นก็คือ ริคสัน เกรซี่

ริคสัน เกรซี่ เป็นคนในตระกูลเกรซี่ ตระกูลที่เป็นผู้คิดค้นศิลปะป้องกันตัวบราซิลเลี่ยนยิวยิตสูนั่นเอง ญาติพี่น้องของเขาต่างนำศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้ไปใช้ในสังเวียนการต่อสู้ต่างๆ และชนะแทบทุกครั้ง แต่ริคสัน เกรซี่ พิเศษกว่าใคร เพราะตั้งแต่เขาสู้มาเขาไม่เคยแพ้ใครเลย มีหลายคนกล่าวว่าเขาเคยสู้มาทั้งหมดกว่า 400 ไฟท์ และทั้งหมดนั้นเขาเป็นผู้ชนะทั้งหมด ซึ่งนับว่าน่าเหลือเชื่อมาก หลายคนถึงกับเรียกเขาว่า "ปรมาจารย์แห่งปรมาจารย์" เลยทีเดียว

นอกจากเป็นหนึ่งในปรมาจารย์บราซิลเลี่ยนยิวยิตสูแล้ว ริคสันยังได้สายดำยูโด และสายดำไอคิโด้อีกด้วย ทุกวันนี้เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้แข่งขันที่ไหนอีก เพราะหลังจากที่รีไทร์ออกมาจากวงการ MMA แล้ว เขาก็หันไปเอาดีทางด้านเล่นกระดานโต้คลื่นแทน

อันดับ 4. Royce Gracie นักสู้ MMA คนแรกที่ได้แชมป์ UFC


ถ้าพูดถึงตระกูลเกรซี่แล้ว นอกจากริคสัน เกรซี่ ก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กัน หรือเผลอๆอาจจะยิ่งกว่าเสียอีก เพราะเขาคือคนแรกที่ได้แชมป์จากสมาคม UFC ซึ่งเป็นสมาคม MMA ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เขาคือ รอย เกรซี่

ได้กล่าวไปแล้วว่า ตระกูลเกรซี่เป็นผู้คิดค้นศิลปะการป้องกันตัวชนิดใหม่ คือบราซิลเลี่ยนยิวยิตสูขึ้น และได้นำมันไปแข่งขันในการประลองหลายครั้ง ซึ่งส่วนมากจะได้รับชัยชนะ ทำให้บราซิลเลี่ยนยิวยิตสูเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่วิชานี้เริ่มได้รับความนิยมสูงสุด ก็ตอนที่รอย เกรซี่ สามารถคว้าแชมป์ UFC ได้เป็นคนแรก และครองไว้นานเลยทีเดียว ว่ากันว่าตลอดเวลาที่เขาครองแชมป์ พวกมวยสาย Striking (คือมวยที่ใช้การยืนสู้ เตะ ต่อย เป็นหลัก เช่น มวยไทย คาราเต้ เทควันโด้ ฯลฯ) แทบจะสูญพันธุ์ไปจาก UFC เลยทีเดียว

นอกจากจะเป็นแชมป์ UFC คนแรกแล้ว ชื่อของรอยยังถูกจารึกในหอเกียรติยศของ UFC อีกด้วย นับว่าเป็นหนึ่งในตำนานของโลก MMA เลยทีเดียว

ปัจจุบัน รอย เกรซี่ อายุ 44 ปี ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของโลก เขาถ่ายทอดวิชาบราซิลเลี่ยนยิวยิตสูให้กับลูกศิษย์จากหลายประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้น รอยเดินทางมาสัมมนาอยู่บ่อยๆ ที่แฟร์แท็กซ์บางพลี และที่ไทเกอร์มวยไทย จังหวัดภูเก็ต

อันดับ 5. Bruce Lee สุดยอดนักแสดงหนังกังฟูตลอดกาล


มีคำกล่าวว่า หากราชาแห่งหนังกังฟูผู้นี้ยังคงมีชีวิตอยู่ บรรดานักแสดงหนังกังฟูในปัจจุบันนี้ ไม่มีวันได้เกิดแน่นอน ทุกคนรู้จักชื่อของเขาในนาม บรู๊ซ ลี

สาเหตุที่บรู๊ซ ลี ได้ติดอันดับนักสู้สะท้านโลกากับเขาด้วยนั้น เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นแค่นักแสดงหนังธรรมดา แต่เขาเป็นนักสู้จริงๆ วิชาที่เขาเรียนมานั้นมาจากอาจารย์มวยจีนหลายท่าน โดยเฉพาะ อาจารย์ยิปมัน ซึ่งเป็นปรมาจารย์มวยจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก มีคนนำประวัติของท่านไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว

นอกจากจะมีวิชาดีแล้ว บรู๊ซ ลี ก็มีประสบการณ์ทั้งทะเลาะวิวาท และการประลองกับศิลปะการต่อสู้อื่นๆมาแล้ว ซึ่งหลายคนที่ได้เห็นเขาสู้ ต่างยอมรับว่านี่คือจอมยุทธ์ทั้งในชีวิตจริงและในภาพยนตร์ และเขาได้นำวิชาต่างๆที่เขาเรียน มาตั้งเป็นศิลปะการต่อสู้ชนิดใหม่ ที่ชื่อว่า "จีทคุนโด้" ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีลูกศิษย์สืบทอดกันมาอยู่

บรู๊ซ ลี เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 32 ปี ด้วยอาการชักเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งนับว่าโลกต้องขาดคนดีมีฝีมือไปอีกคนอย่างน่าเสียดาย
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | trapizius | 19 มี.ค. 54 19:28 น.

อันดับ 6. Chuck Norris นักแสดงหนังบู๊ผู้ถูกขนานนามว่า "บร๊ะเจ้า"


หากกล่าวถึงบรู๊ซ ลี แล้ว มีอีกคนหนึ่งซึ่งจะละเว้นเสียมิได้ เพราะถือว่าโด่งดังไม่แพ้กัน เขาคนนั้นคือ ชัค นอร์ริส

เช่นเดียวกับบรู๊ซ ลี คือชัค นอร์ริส ไม่ได้เป็นแค่นักแสดงหนังบู๊อย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังมีฝีมือทางด้านศิลปะการป้องกันตัวอีกด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็ได้ตั้งวิชาของเขาขึ้นมาใหม่เช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า "ชันคุคโด้"

เนื่องจากชัค นอร์ริส มักแสดงหนังในลักษณะของการเป็นยอดมนุษย์เหนือคน ชอบแสดงหนังบู๊แบบเว่อร์ๆ จึงมีคนนำไปล้อเลียนด้วยการยกย่องบูชาอย่างเกินจริง เช่น มีฉากหนึ่งชัค นอร์ริส ต้องเข้าต่อสู้กับหมี ก็มีคนมาล้อเลียนว่าต้องใช้หมีถึง 13 ตัวในการถ่ายทำฉากนี้เพียงฉากเดียว เนื่องจากชัค นอร์ริส ทำหมีตายไป 12 ตัว

การล้อเลียนชัค นอร์ริสนั้น เราจะเห็นได้จากคอมเม้นต์ในยูทูปบ่อยๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับการชาบูบร๊ะเจ้าโจ๊ก โซคูล ของไทยเรา ว่ากันว่าความจริง 36 ประการ ของบร๊ะเจ้าโจ๊ก โซคูลนั้น บางส่วนแปลมาจากบทความล้อเลียนชัค นอร์ริส นั่นเอง

อันดับ 7. ทัชชกร ยีรัมย์ นักแสดงหนักบู๊ชาวไทยที่โด่งดังที่สุด


เมื่อกล่าวถึงบรู๊ซ ลี และชัค นอร์ริส แล้ว อีกคนหนึ่งซึ่งเป็นที่กล่าวถึงอย่างยิ่งในปัจจุบัน และมีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นคนไทย นั่นก็คือ ทัชชกร ยีรัมย์ หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม จาพนม นั่นเอง

จาพนม เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาจากภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" โดยมีสโลแกนว่า "ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน" ซึ่งทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และทำให้ชาวต่างชาติรู้จักมวยไทยมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

นอกจากจะเป็นนักแสดง สตั๊นแมนแล้ว จาพนมยังมีวิชาป้องกันตัวเป็นของตนเองอีกด้วย โดยเขาได้เรียนรู้ทั้งมวยจีน มวยไทยโบราณ และการต่อสู้อื่นๆอีกมากมาย มาประยุกต์และนำมาสอนให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย

อาจารย์ที่สอนศิลปะการต่อสู้ให้แก่จาพนม ได้แก่ อาจารย์รัฐพล ผู้สอนมวยไทยโบราณและมวยจีนตระกูลหวิงชุน คุณพันนา ฤทธิไกร ผู้กำกับภาพยนตร์ซึ่งมีความสามารถในด้านศิลปะการต่อสู้ด้วย และพันเอกอำนาจ พุกศรีสุข ครูมวยไทยโบราณสายโคราช

อันดับ 8. Manny Pacquiao นักมวยสากลที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกปัจจุบัน หากเทียบปอนด์ต่อปอนด์


คนไทยเรามักจะดูถูกนักมวยฟิลิปปินส์ว่าเป็นมวยส้วม เนื่องจากเรามักจะนำนักมวยจากประเทศนี้มาเป็นกระสอบทรายให้นักมวยไทยเตะเล่นอยู่เสมอ แต่ แมนนี่ ปาเกียว แสดงให้ทุกคนเห็นว่า มวยฟิลิปปินส์สามารถที่จะครองตำแหน่งแชมป์โลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี

ปาเกียวเป็นนักมวยที่ทรหดอดทน และมีหมัดที่หนักมาก เขาสามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นแชมป์โลกได้อย่างภาคภูมิใจ และเป็นชาวเอเชียรายแรกที่ได้เข็มขัดแชมป์โลกถึง 8 รุ่น นอกจากนี้เขายังได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมวยสากลที่เก่งที่สุดในโลก หากเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์

นอกจากมวยสากลแล้ว ปาเกียวยังสนใจที่จะมาเล่นการเมืองอีกด้วย โดยได้สมัครเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร และได้รับคะแนนเสียงอย่างล้นหลาม ซึ่งเขากล่าวว่า บางทีเขาอาจจะแขวนนวมและหันไปเล่นการเมืองแทน เนื่องจากทางครอบครัวไม่สนับสนุนให้ชกมวย

อันดับ 9. Floyd Mayweather Jr. นักมวยสากลที่ว่ากันกว่าเก่งที่สุดในโลกปัจจุบันเป็นอันดับ 2 หากเทียบปอนด์ต่อปอนด์


ถึงแม้ปาเกียวจะเป็นนักมวยสากลที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโลกหากเทียบปอนด์ต่อปอนด์ แต่ถ้าพูดถึงสถิติแล้ว สถิติของปาเกียวยังไม่ดีเท่ากับคนที่เป็นอันดับสองรองจากเขา นั่นก็คือ ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์

ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ เป็นนักมวยสากลชาวอเมริกัน และมีสถิติสวยหรูคือไม่เคยแพ้ใครเลยแม้แต่ครั้งเดียวในสังเวียนมวยอาชีพ(แต่ตอนชกสมัครเล่นเคยแพ้อยู่เหมือนกัน) ซึ่งดรีมแมตต์ของแฟนมวยหลายๆคนก็คือ อยากให้ฟลอยด์กับปาเกียวโคจรมาชกกันเหลือเกิน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ชกกันแต่อย่างใด บางคนกล่าวว่าเป็นเพราะฟลอยด์ผลัดวันประกันพรุ่ง อ้างโน้นอ้างนี่ไปเรื่อย จึงทำให้ดรีมแมตต์นี้ต้องเลื่อนออกไปอีก

ถึงแม้ฟลอยด์จะเป็นนักมวยที่เก่งกาจมาก แต่กลับได้รับความเกลียดชังจากแฟนมวยเสียเป็นส่วนใหญ่ ด้วยนิสัยขี้โม้ขี้คุยของเขา และความประพฤติที่ไม่ดีนัก ทำให้ใครหลายๆคน เชียร์ให้ฟลอยด์แพ้เป็นครั้งแรกด้วยความหมั่นไส้

ฟลอยด์เคยปรากฏตัวในศึก Wrestlemania 24 ของสมาคมมวยปล้ำ WWE โดยมาต่อสู้กับ Big Show ซึ่งฟลอยด์ก็เอาชนะไปแบบโกงๆ ซึ่งถึงแม้จะเป็นแค่การแสดง แต่ก็เรียกเสียงโห่จากแฟนๆได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

อันดับ 10. Rocky Marciano นักมวยสากลผิวขาวที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดตลอดกาล


หนึ่งในยอดนักมวยผู้เป็นตำนานสะท้านโลก ผู้ที่พลิกโฉมแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท ที่โดยปกติแล้วมักจะมีแต่คนผิวดำเท่านั้นที่ได้ครองตำแหน่งนี้ แต่เขาคนนี้เป็นนักมวยผิวขาว เป็นขวัญใจชาวอเมริกัน นาม ร็อคกี้ มาร์เซียโน่

ร็อคกี้ เป็นนักมวยที่ตัวค่อนข้างเตี้ยเล็ก ไม่สมกับการชกรุ่นเฮฟวี่เวทเท่าไหร่นัก และเนื่องจากระยะหมัดของเขาสั้น เขาจึงมีสไตล์การชกแบบมวยเตี้ย คือก้มเข้าประชิดและต่อยหมัดสั้นอย่างรุนแรง และด้วยพลังหมัดอันหนักหน่วงของเขา ทำให้เขาได้รับฉายาจากผู้ชมชาวไทยในสมัยนั้นว่า “อ้ายหมัดภูผาหิน”

ร็อคกี้เป็นหนึ่งในนักมวยที่ครองสถิติไร้พ่าย ไม่เคยแพ้ใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขากลับประกาศแขวนนวมไปตั้งแต่อายุยังน้อย คือวัยเพียง 33 ปีเท่านั้น และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวตกในเวลาต่อมา

ความโด่งดังของร็อคกี้ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Rocky ขึ้นในเวลาต่อมา และดาราที่มาแสดงเป็นร็อคกี้นั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน พระเอกหนังเรื่องแรมโบ้นั่นเอง

ก่อนจะเสียชีวิต ร็อคกี้เคยเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อมาชมการแข่งขันมวยไทยที่เวทีราชดำเนิน โดยมีอาจารย์เจือ จักษุรักษ์ ผู้เป็นกรรมการมวยระดับโลกมาให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

ปล. เพลงเปิดตัวของร็อคกี้ มีชื่อว่า Eye of the tiger นับว่าเป็นเพลงคลาสสิค ที่นักมวยปัจจุบันหลายคนก็ยังชอบฟังกันอยู่(รวมทั้งเจ้าของกระทู้ด้วย)

แก้ไขล่าสุด 19 มี.ค. 54 19:39 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | ASSASXIN-9991 | 19 มี.ค. 54 19:38 น.

จะมีบัวขาวไหมเอ่ย

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | trapizius | 19 มี.ค. 54 21:10 น.

อันดับที่ 11. Muhammad Ali นักมวยสากลจอมขี้โม้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด


ปกติคนขี้โม้มักดีแต่ปาก แต่มีชายคนหนึ่งซึ่งไม่เพียงแต่จะโอ้อวดตัวเองอย่างน่าหมั่นไส้เท่านั้น เขากลับทำสิ่งที่โม้เอาไว้ให้สำเร็จได้หลายครั้ง และกลายเป็นตำนานมวยสากลโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง เขาคือ มูฮัมหมัด อาลี

มูฮัมหมัด อาลี หรือชื่อเดิมคือ เคสเซียส เคลย์ เป็นนักมวยสากลผู้เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทที่มีชีวประวัติน่าสนใจมาก เชื่อหรือไม่ว่าสาเหตุที่เขาหันมาฝึกซ้อมมวย เกิดจากในวัยเด็กเขาถูกขโมยจักรยานแสนรักจนต้องวิ่งร้องไห้ไปแจ้งตำรวจ และรำพันด้วยความเคียดแค้นว่าถ้าเจอตัวขโมยจะต่อยเสียให้แหลกละเอียดคามือ นายตำรวจผู้รับแจ้งความเผอิญเป็นครูมวยเสียด้วย เลยจับเอาเคสเซียส เคลย์ มาฝึกมวยเป็นเรื่องเป็นราวเสียเลย

เคสเซียส เคลย์ เคยได้เหรียญทองจากกีฬาโอลิมปิกมาแล้ว แต่เขาก็ขว้างมันทิ้งเสีย เนื่องจากในสมัยนั้นยังมีการเหยียดผิวกันอยู่ในสหรัฐอเมริกา และพนักงานภัตตาคารแห่งหนึ่งไม่ยอมให้เขาเข้าไป เขาจึงประชดด้วยการขว้างเหรียญทองโอลิมปิกทิ้ง อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาได้เริ่มเข้าสู่วงการมวยสากลอาชีพ และเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากสไตล์การชกของเขา ซึ่งตามปกติแล้วนักมวยในรุ่นเฮฟวี่เวท มักจะเป็นพวกถึกอึดและหมัดหนักปานต่อยวัวตาย แต่เคสเซียส เคลย์ กลับต่างออกไป เขาจะชกในลักษณะรักษาระยะ และมีลีลาการต่อสู้ที่พริ้วไหว มีฟุตเวิร์คที่สวยมาก ซึ่งในภายหลังเขาได้นำพู่มาติดที่รองเท้า เวลาฟุตเวิร์คพู่จะปลิวไสวดูสวยงามมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ขนานนามการชกของเขาว่า "โบยบินเหมือนผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง"

นอกจากลีลาการชกอันงดงามสะดุดตาแล้ว เอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งคือความปากดีของเขา ที่มักจะขี้โม้ขี้คุย รวมไปถึงการดูถูกคู่ต่อสู้ และยังกล้าทำนายผลการชกของตนเอง ซึ่งปรากฏว่าหลายครั้งเขาก็ทำได้อย่างที่ทำนายไว้จริงๆ แต่ถึงแม้เขาจะรุ่งเรืองขึ้นมาขนาดไหน ในที่สุดเขาก็ถูกจับเนื่องจากปฏิเสธการเกณฑ์ทหาร ทำให้เขาถูกถอดตำแหน่งแชมป์ และหลังจากพ้นโทษแล้ว เขาก็ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม และเปลี่ยนชื่อเป็น มูฮัมหมัด อาลี นับจากนั้น

ฉายาของมูฮัมหมัด อาลีก็คือ Black Superman ซึ่งมีคนนำไปแต่งเป็นเพลงร้องกันทั่วไป และฉายาที่ผู้ชมชาวไทยตั้งให้ก็คือ สิงห์จอมโว

ปัจจุบัน มูฮัมหมัด อาลี ป่วยด้วยโรคพาร์กินสัน และไม่สามารถทำงานทำการใดใดได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่อดตายแน่นอน เพราะบริษัทที่นำชื่อเขาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้เขาเป็นจำนวนมหาศาลตลอดชีวิตเลยทีเดียว

ชีวประวัติของอาลี ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด บทอาลีนั้นรับบทโดยวิลล์ สมิธ นักแสดงชื่อดัง

ปล. มีคนเคยตั้งคำถามว่า ถ้าร็อคกี้กับอาลีสู้กันใครจะชนะ และเนื่องจากทั้งสองเป็นยอดมวยคนละยุค จึงได้มีการนำทั้งคู่มาวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ และปรากฏว่าร็อคกี้น่าจะชนะอาลี ซึ่งการวิเคราะห์นั้นก็น่าจะมีส่วนถูก เพราะจากประวัติการชกของอาลีนั้น อาลีแพ้ทางมวยเตี้ยอย่าง โจ ฟราเซียร์ ซึ่งมีสไตล์ชกแบบเดียวกับร็อคกี้

อันดับที่ 12. โผน กิ่งเพชร ชาวไทยคนแรกที่ได้แชมป์มวยสากลโลก


พูดถึงแชมป์มวยสากลโลกชาวต่างชาติมาเยอะแล้ว คราวนี้จะหันมาดูทางประเทศไทยเราบ้าง ซึ่งประเทศไทยเราเองก็ถือว่ามีแชมป์มวยสากลโลกมาหลายคนแล้ว แต่คนแรกในประวัติศาสตร์ของเรานั้นก็คือ โผน กิ่งเพชร

โผน กิ่งเพชร เป็นนักมวยในตำนานของไทย ที่ได้ครองแชมป์โลกถึง 3 สมัยด้วยกัน มีสไตล์การชกคล้ายมูฮัมหมัด อาลี คือฟุตเวิร์คว่องไว ชิงจังหวะชกได้ดี และในตอนเด็กๆ เขาเคยลั่นวาจาไว้กับเพื่อนๆว่า เขาจะเป็นแชมป์โลกคนแรกของประเทศไทยให้ได้ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงจริงๆ

ถึงแม้เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษของคนไทยในชั่วข้ามคืน จากการชิงแชมป์โลกจากปาสคาล เปเรซ แต่บั้นปลายชีวิตของเขากลับน่าสงสารมาก เพราะหลังจากที่เขาแขวนนวมไปแล้ว กลับต้องใช้ชีวิตอย่างอัตคัตขัดสน โรงเรียนมานะวิทยา ซึ่งเขาอุตส่าห์สร้างขึ้นมาด้วเยงินทองในยามรุ่งเรืองของเขานั้น ก็ต้องถูกปิดไป โผนกลายเป็นคนป่วย อ่อนแอ ไม่เหลือเค้าของวีรบุรุษอีกเลย จนกระทั่งในที่สุดขณะอายุได้ 47 ปี โผนกำลังนั่งรับประทานอาหารกับครอบครัวแล้วเกิดสำลัก อาหารเข้าไปติดอยู่ในหลอดลมและเน่า เกิดการติดเชื้อ แม้นำไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วก็ไม่หาย สุดท้ายแชมป์โลกคนแรกของประเทศไทยก็ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสลดใจ

หลังจากโผนเสียชีวิตไป ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ของเขาไว้ที่หัวหิน เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้ลูกหลานไทยได้ระลึกถึงวีรบุรุษของประเทศไทยคนนี้ต่อไปอีกตราบนานเท่านาน

อันดับที่ 13. เขาทราย แกแล็คซี่ และเขาค้อ แกแล็คซี่ ฝาแฝดคู่แรกของโลกที่ได้ตำแหน่งแชมป์โลกมวยสากลทั้งคู่


ในสมัยโบราณที่ประเทศไทยเรายังถูกเรียกว่าสยามนั้น ชาวต่างประเทศยังรู้จักเราในฐานะ "แฝดสยาม" คือแฝดอิน-จัน เท่านั้น และในวงการมวยสากล ก็มีฝาแฝดชาวไทยคู่หนึ่งที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ทั้งคู่ พวกเขาก็คือ เขาทราย และเขาค้อ แกแล็คซี่

ยังเป็นที่กังขากันอยู่ทุกวันนี้ว่า เขาทรายหรือเขาค้อกันแน่ที่เป็นพี่ เพราะตามประวัติแล้วเขาทรายคลอดออกมาก่อน น่าจะได้ศักดิ์เป็นพี่ แต่ความเชื่อของชาวบ้านเชื่อว่าพี่จะเป็นคนดันน้องออกมาก่อน จึงถือว่าเขาค้อเป็นพี่ไปโดยปริยาย

พูดถึงความสำเร็จในวงการมวย ดูเหมือนเขาทรายจะประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะสามารถครองแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวทของสภามวยโลกได้นานถึง 19 สมัย นับเป็นสถิติสูงสุดของโลก ที่ปัจจุบันก็ยังหามวยรุ่นนี้มาทำลายสถิติไม่ได้ และตลอดการเป็นแชมป์โลกนั้นไม่เคยแพ้ใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศของสภามวยโลกอีกด้วย

ส่วนเขาค้อได้ครองแชมป์ในรุ่นแบนตั้มเวท โดยกลายเป็นนักมวยชาวไทยคนแรกที่สามารถครองตำแหน่งแชมป์รุ่นนี้ได้ และได้ครองตำแหน่งแชมป์ในเวลาเดียวกันกับเขาทราย แต่ได้แขวนนวมก่อนเขาทราย

สองพี่น้องคู่นี้เคยชกกันมาแล้วอย่างน้อยครั้งหนึ่ง ที่เวทีราชดำเนิน ปรากฏว่าเขาทรายเป็นฝ่ายชนะคะแนนไป

อันดับที่ 14. สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยชาวไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก


กีฬาโอลิมปิก นับเป็นกีฬาที่ทุกประเทศใฝ่ฝันจะได้เหรียญทองจากการแข่งขัน และสำหรับประเทศไทยแล้ว กีฬาที่นับว่าเป็นตัวเก็งในการชิงเหรียญทองของเรา ก็ได้แก่ ยกน้ำหนัก และมวยสากลสมัครเล่น เป็นต้น และนักชกที่ทำความฝันของวงการมวยสากลไทยให้เป็นจริงคนแรกนั้นก็คือ สมรักษ์ คำสิงห์ นั่นเอง

ก่อนที่จะมาชกมวยสากล สมรักษ์เคยเป็นนักมวยไทยมากฝีมือคนหนึ่ง และพอหันมาชกมวยสากลสมัครเล่น ชีวิตก็รุ่งเรืองถึงขั้นได้เหรียญทองซีเกมส์ ก่อนจะได้เหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ ที่จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในเวลาต่อมา ภายหลังยังได้เหรียญทองในเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 อีกด้วย

ถ้าจะบอกว่ามูฮัมหมัด อาลี คือจอมโม้ระดับโลกแล้ว สมรักษ์ก็คือจอมโม้ระดับประเทศ เพราะเขาก็มีนิสัยชอบคุยโว ทำนายผลการชกก่อนจะชกเสมอ จนได้รับฉายาว่า "โม้อมตะ" ซึ่งภายหลังกลายเป็นคำพูดติดปากของคนทั่วไปว่า "ไม่ได้โม้"

อันดับที่ 15. พุฒ ล้อเหล็ก นักมวยไทยที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดตลอดกาล


คงมีน้อยคนนักที่จะรู้จักเขา ชายผู้เป็นตำนานแห่งวงการมวยไทย ซึ่งในอดีตโด่งดังมากจนไม่มีนักมวยไทยคนไหนกล้าต่อกร นามของเขาคือ พุฒ ล้อเหล็ก

พุฒ ล้อเหล็ก คือนักมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน ตลอดการชก 80 ไฟต์ของเขานั้น เขาไม่เคยแพ้น็อค แพ้ TKO หรือแม้แต่โดนนับเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยลีลาการชกของพุฒนั้น นอกจากจะหมัดหนักแล้ว ยังมีท่วงท่าที่พริ้วไหว และยังใช้แม่ไม้และลูกไม้มวยไทยอย่างชนิดหาตัวจับยาก

ในการแข่งขันไทยไฟท์ ที่จัดขึ้นเมื่อปีก่อนนั้น พุฒ ล้อเหล็ก ซึ่งตอนนี้อายุมากแล้วก็ได้ไปร่วมดูอยู่ด้วย และได้แสดงข้อคิดเห็นหลายประการ เกี่ยวกับการที่เพชรมั่นคง แพ้นักมวยไทยชาวต่างชาติ

แก้ไขล่าสุด 19 มี.ค. 54 21:44 | ไอพี: ไม่แสดง

#4 | trapizius | 19 มี.ค. 54 23:29 น.

อันดับ 16. บัวขาว ป. ประมุข นักมวยไทยที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดจากรายการ K-1


ในบรรดานักมวยไทยที่มีชื่อเสียงจากการไปชกในต่างประเทศ ในปัจจุบันนี้คงไม่มีใครดังไปกว่า บัวขาว ป. ประมุข ที่ครองแชมป์จากรายการ K-1 ของประเทศญี่ปุ่น จนมีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ตลอดจนประเทศอื่นๆอีกมากมาย

ก่อนที่จะไปชกในญี่ปุ่นนั้น บัวขาวชกมวยไทยภายในประเทศมาก่อน และก็นับว่าเป็นมวยฝีมือจัดคนหนึ่งที่หาตัวจับยาก และหลังจากที่ไปชกในรายการ K-1 ของญี่ปุ่น ก็ได้แชมป์ถึง 2 สมัย รองแชมป์อีก 1 สมัยด้วยกัน บัวขาวได้รับการจัดอันดับว่าเป็นนักสู้เควันที่เก่งที่สุดเป็นอันดับ 2

ถึงแม้บัวขาวอาจจะไม่ขาวอย่างชื่อ แต่เชื่อหรือไม่ว่าสาวๆญี่ปุ่นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า บัวขาวหล่อ ไม่เชื่อลองไปหารูปแฟนคลับของบัวขาวที่ญี่ปุ่นได้ มีแต่สาวๆญี่ปุ่น ขาวๆน่ารักทั้งนั้น

ในรายการไทยไฟท์ บัวขาวได้รับเกียรติให้มาสาธิตวิธีการไหว้ครูของมวยไทย และบัวขาวยังได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ซามูไรอโยธยา ร่วมกับนักแสดงชาวญี่ปุ่นชื่อ เซกิ โอเซกิ

อันดับ 17. ช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์ นักมวยไทยที่ถูกนำไปเป็นต้นแบบตัวการ์ตูนญี่ปุ่นมากที่สุด


ถ้าคุณคิดว่าบัวขาวคือนักมวยไทยคนแรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะก็..คุณคิดผิด เพราะก่อนหน้าบัวขาว เคยมีนักมวยไทยไปชกในรายการ K-1 ของญี่ปุ่นมาแล้ว

ช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์ อาจไม่เคยเป็นแชมป์แบบบัวขาว แต่เขาคือหนึ่งในนักมวยไทยที่บุกเบิกการไปชกในรายการ K-1 และสร้างชื่อเสียงมวยไทยให้ชาวญี่ปุ่นและชาวโลกได้รู้จัก ด้านฝีมือก็นับว่าไม่ใช่เล่นๆ เพราะเขาเคยคว่ำนักมวยต่างชาติเก่งๆมาแล้วหลายราย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวญี่ปุ่น หันมาสนใจกับมวยไทยมากยิ่งขึ้น

อย่างที่เรารู้กันดีว่า ชาวญี่ปุ่นนั้นเป็นนักเขียนการ์ตูนและสร้างเกมมากมาย ดังนั้นมวยไทยจึงได้ถูกบรรจุลงในการ์ตูนและเกมเหล่านั้นด้วย และคาแรกเตอร์ของนักมวยไทยส่วนใหญ่ ก็จะเอามาจากช้างเผือกนี่แหละครับ

ตัวอย่างตัวละครในการ์ตูนและเกมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช้างเผือกมีดังนี้

1. พยัคฆ์ จากเกม buriki one
2. ช้างเผือก ในรูปแบบ 3D ในเกมเพลย์สเตชั่น
3. เด่นธรณี ศิษย์พระกาฬ จากบากิ
4.เกรียงอาจ สุวรรณภักดี จากใครว่าข้าไม่เก่ง
5.ลังกา เกศสัมฤทธิ์ จากนักสู้สังเวียนเลือด
6.จำปา เกียรติสัมฤทธิ์ จากข้าคือจ้าวนักสู้

ฯลฯ

อันดับ 18. Gina Carano นักมวยไทยและนักสู้ MMA หญิง ที่ฮอตที่สุดในโลก


ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นผู้หญิงหันมาชื่นชอบกีฬาประเภทมวย โดยเฉพาะมวยไทยด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ผู้หญิงที่ชกมวยส่วนใหญ่ก็มักจะดูกร้าน ออกแนวทอมบอยหรือละม้ายคล้ายผู้ชายไปซะมากกว่า

แต่ Gina Carano ไม่ใช่อย่างนั้น ถึงแม้เธออาจจะกล้ามใหญ่กว่าผู้ชายหลายคน และโครงหน้าค่อนข้างใหญ่แสดงลักษณะบึกบึนอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วก็จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยไม่น้อย ซึ่งนอกจากเธอจะสู้ในสังเวียนเชือกและในกรงแล้ว เธอยังถ่ายแบบและเป็นนักแสดงอีกด้วย

จีน่าเริ่มต้นการฝึกฝนต่อสู้โดยการฝึกมวยไทย และได้รับการยอมรับว่าเป็นนักมวยไทยหญิงที่เก่งกาจมาก ถ้าผมจำไม่ผิดดูเหมือนจะเคยมาชกในไทยด้วย รู้สึกจะคว่ำนักชกไทยไปเหมือนกัน ต่อมาเธอได้หันไปฝึก MMA โดยได้ชกในสมาคม Strikeforce(ที่เดียวกับเฟเดอร์นั่นแหละ) ซึ่งเธอก็โชว์ฟอร์มร้อนแรงมาก จนได้เข้าชิงแชมป์หญิงกับ Cristiane Santos แต่ไม่สามารถชิงได้สำเร็จ

ถ้าใครเคยเล่นเกม RedAlert 3 จะเห็นยูนิตฮีโร่ฝ่ายโซเวียตที่ชื่อ นาตาช่า ซึ่งคนที่แสดงเป็นนาตาช่าในฉากมูฟวี่นั้น ก็คือ จีน่า คาราโน่ นั่นเองครับ

อันดับ 19. แซมซั่น ส. ศิริพร นักมวยสากลหญิงคนแรกของไทยที่คว้าแชมป์โลก


ผมเชื่อว่าคงมีคนไม่กี่คน ที่เมื่อทำผิดร้ายแรงไปแล้ว จะสามารถกลับตัวกลับใจใหม่ ฟันฝ่าอุปสรรคจนกระทั่งผันตัวเองกลายมาเป็นฮีโร่ของปวงชนไปได้ ซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งได้ทำมันสำเร็จแล้ว เธอคือ แซมซั่น ส. ศิริพร

อดีตของแซมซั่น ส. ศิริพรนั้น เรียกว่าน่ารันทดมาก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก ต้องไปอาศัยอยู่กับยาย การศึกษาก็จบเพียงชั้นป.6 เท่านั้น ซ้ำร้ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เธอได้ถูกชักชวนให้เสพยาเสพติด และต่อมาก็ผันตัวเองมาเป็นผู้ขายยาเสพติด จนกระทั่งถูกจับและถูกจำคุกเป็นเวลานานถึง 10 ปี แถมยังต้องคอยบำบัดอาการติดยาอย่างต่อเนื่อง

ใครจะไปเชื่อ..ว่าผู้หญิงที่ดูเหมือนจะหมดอนาคตแล้วคนนี้ จะสามารถก้าวขึ้นสู่ชื่อเสียงระดับโลก?

แต่เธอกลับพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อสถานบำบัดยาเสพติดที่เธอรักษาอยู่ได้ตั้งค่ายมวยขึ้น เธอจึงเข้าไปขอฝึกมวยด้วย จนกระทั่งสามารถไต่เต้าไปชิงแชมป์โลกได้สำเร็จในที่สุด เป็นความภาคภูมิใจของทั้งตัวเธอและคนไทยทั้งประเทศ

และรางวัลที่เธอจะได้รับ นอกจากค่าตัวแล้ว เธอยังได้รับการพักโทษให้ออกมาใช้ชีวิตนอกเรือนจำได้บ้าง แต่ต้องกลับไปรายงานตัวทุกครั้ง ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อไปในอนาคต

อันดับ 20. ปริญญา เจริญผล นักมวยไทยสาวประเภทสองที่ประสบความสำเร็จที่สุด


หนึ่งในนักมวยไทยที่เป็นตำนาน ที่ทั้งฝีมือก็ถือว่าไม่ใช่เล่น แต่พ่วงความน่าสนใจเข้าไปอีก เพราะเธอ(หรือเขา?)คือนักมวยไทยสาวประเภทสองที่เรารู้จักกันในนาม น้องตุ้ม

คุณตุ้มเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆเธอ(เรียกเธอละกันวะถือว่าตอนนี้เป็นสาวแล้ว)ถือว่าเป็นคนที่แข็งแรงคนหนึ่งเลยทีเดียว เรียกว่าอะไรหนักๆคนอื่นช่วยกันยกไม่ไหว ถ้าเรียกตุ้มไปช่วย รับรองเลยว่ายกขึ้นได้อย่างง่ายดาย

คุณตุ้มได้เป็นแชมป์ที่เวทีลุมพีนี และเริ่มสร้างความฮือฮาด้วยการแต่งหน้าทาปากในขณะชก ซึ่งภายหลังก็ได้ไปผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิงสมความตั้งใจในที่สุด

หนึ่งในไฟท์ตำนานของคุณตุ้ม ก็คือเธอได้ประมือกับนักมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นนาม เคียวโกะ อิโนอุเอะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคิดจะจัดเอาฮาหรือยังไงกันแน่ แต่ที่รู้ๆคือคุณตุ้มแกไม่ฮาครับ แกโหดเลยทีเดียวแหละ ไฟท์นั้นผมแนะนำให้ดูเองครับ ไม่ขอสปอยเด็ดขาด
http://topicstock.pantip.com/supach........./S10058896.html



และแล้ว การจัดอันดับนักสู้ 20 อันดับ ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ หากใครอยากให้ผมหาประวัติของนักสู้ท่านไหนอีก ผมจะพยายามไปหามาให้เท่าที่จะทำได้นะครับ

ขอบคุณเว็บไซต์วิกิพีเดีย ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ช่วยเอื้อเฟื้อข้อมูลที่เป็นประโยชน์

ขอบคุณเว็บ http://www.zone4.in.th/board/viewthread.php?tid=367
ที่เสริมข้อมูลของช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์

สุดท้ายก็หมดเวลาแต่เพียงเท่านี้แล้วครับ ขอตัวไปโทรศัพท์คุยกับดาลิ้งก่อนนะครับ สวัสดีครับ

แก้ไขล่าสุด 20 มี.ค. 54 12:03 | ไอพี: ไม่แสดง

#5 | dreamdfrd | 20 มี.ค. 54 11:55 น.

น้องตุ้มมมมมมม 5555555
ขอบคุณสำหรับข่าวสารค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | @Joker891219. | 21 มี.ค. 54 00:09 น.

คนไทยเพียบ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | ๒๔๑๐๓๐' | 6 เม.ย. 54 23:34 น.

ไทยเยอะจัง

นี่แหละคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google